วันอังคารที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2553

นินจามหาเวทย์ ตอนที่1

ในโลกนินจา ซึ่งมีแคว้นต่างๆใหญ่น้อยมากมายได้แ่ก่งแย่งชิงดี เพื่อที่จะได้เป็นแคว้นที่ใหญ่และทรงอำนาจที่สุดในโลกนินจาแห่งนี้ ต่อมาสงครามระหว่างแคว้นก็เริ่มกลายเป็นสงครามนินจา โดยที่สงครามนินจานั้นเกิดขึ้นมาแล้วถึง2ครั้ง ในครั้งแรกเกิดขึ้นในสมัยที่ทุกแคว้นยังไม่ได้รวบรวมหมู่ บ้านซึ่งเป็นสงครามที่ทำให้เกิดหมู่บ้านลับแห่งนินจาตามมา ในสงครามนินจาครั้งที่2นั้นเป็นสงครามระหว่างแคว้นเนื่องด้วยแต่ละแคว้นมีนิ นจาสะสมไว้เพื่อสู้รบกันเอง จากที่เคยเป็นสงครามรบพุ่งก็กลายมาเป็นสงครามเย็น ซึ่งในแต่ละแคว้นนั้นได้เริ่มมีหมู่บ้านลับนินจา เพื่อสะสมกองกำลังนินจาของหมู่บ้านลับนินจาในแต่ละแคว้น จนเป็นที่มาแห่งสงครามเย็นระหว่างแคว้นนั่นเอง หลังสงครามครั้งที่2นี้เองทำให้เกิดแคว้นใหญ่ๆขึ้นมาถึง7แคว้น อันได้แก่ แคว้นท้องฟ้า แคว้นทุ่งร้าง แคว้นทุ่งหญ้า แคว้นป่า แคว้นภูผา แคว้นหุบเหว และแคว้นทะเล นอกจากนั้นยังมีแคว้นเล็กๆอีกหลายแคว้นที่ยังอยู่รอดมาได้เช่น แคว้นเมฆ แคว้นแม่น้ำ แคว้นเหล็ก แคว้นหิมะเป็นต้น ซึ่งแคว้นต่างๆนี้เองที่เป็นชนวนการสะสมกองกำลังนินจา และเป็นสาเหตุของสงครามเย็นในยุคปัจจุบัน


โลกนินจาในปัจจุบันนี้มีพันธมิตรหมู่บ้านนินจาที่ประกอบด้วย หมู่บ้านแสง(แคว้นท้องฟ้า) หมู่บ้านภูเขาเพลิง(แคว้นทุ่งร้าง) หมู่บ้านสายฟ้าฟาด(แคว้นทุ่งหญ้า) และหมู่บ้านพายุ(แคว้นภูผา) เป็น4หมู่บ้านใหญ่ในพันธมิตรนินจา ซึ่งนับว่าเป็นแกนความสงบของโลกนินจาเลยก็ว่าได้ ส่วนหมู่บ้านความมืด(แคว้นหุบเหว)นั้นเป็นหมู่บ้านลับนินจาที่ลึกลับที่สุด และคอยเป็นปรปักษ์ต่อแคว้นอื่นๆอยู่เรื่อยๆ เนื่องจากต้องการเป็นใหญ่และคุมอำนาจในโลกนินจาเพียงหนึ่งเีดียว


พันธมิตร4แคว้นใหญ่นั้น บางทีก็ระแวงกันเองไม่ค่อยจะสามัคคีกันเท่าที่ควร ทำให้ฝ่ายหมู่บ้านความมืดเข้าแทรกแซงอยู่บ่อยครั้ง เพื่อทำให้เป็นเหตุให้ผิดใจกันเองเสมอ แล้วช่วงโอกาสที่ฝ่ายหมู่บ้านความมืดก็มาถึง เมื่อการประชุมเงาผู้นำหมู่บ้านแห่งปีมาถึง ในการประชุมเงาครั้งนั้นเองที่ทำให้เกิดสงครามระหว่างแคว้นต่อกันอีกครั้ง เมื่อเงาแห่งสวรรค์ของหมู่บ้านสวรรค์รุ่นที่2ถุกลอบสังหาร พร้อมกับเงาแห่งทรายรุ่นที่4ผู้มาเป็นพยานในการประชุม ทำให้สถานะการณ์ทั้ง4แคว้นใหญ่ตึงเครียดมากกว่าเดิม ไม่เพียงแค่นั้นแคว้นเล็กๆต่างๆก็ตรึงเครียดไปตามๆกัน 4แคว้นใหญ่ก็เริ่มระแวงกันเอง จนทำให้การประชุมในครั้งนั้นต้องยกเลิกในทันที แล้วไม่กี่อึดใจเมื่อประกาศล้มเลิกงานประชุมเงา หมู่บ้านลับนินจาแห่งแสงก็ถูกเข้าโจมตีจากหลายทาง ทั้งจากทางแคว้นทะเล แคว้นดิน แคว้นเหล็ก และแคว้นหุบเหว จนทำให้หมู่บ้านแสงระส่ำระสายพ่ายอย่างไม่เป็นท่า จึงต้องขอความช่วยเหลือจาก3แคว้นใหญ่ที่เหลือ


เงาอีก3แคว้นนั้นยังอยู่ในแคว้นท้องฟ้า จึงให้ความช่วยเหลือแคว้นท้องฟ้าอย่างเต็มที่โดยนำกองกำลังนินจาจากอีก3แคว้นเข้ามาช่วยต้านในศึกครั้งนี้ ซึ่งกองกำลังนั้นประกอบด้วย เงาแห่งเปลวอัคคีรุ่นที่3 เงาแห่งอัศนีรุ่นที่4 และเงาแห่งพายุรุ่นที่4 ทั้ง3เงาต้องนำกำลังอีก3แคว้นใหญ่เข้ามาช่วยแคว้นท้องฟ้า คนนินจาที่โจมตีถอยร่นออกจากแคว้นท้องฟ้า การต่อสู้ครั้งนั้นเป็นไปอย่างดุเดือดมาก ถึงแม้ว่าจะรักษาแคว้นท้องฟ้าไว้ได้ แต่ฝ่ายพัธมิตรเองก็เสียเงาแห่งสวรรค์รุ่นที่2ไปแล้วนั้น และยังเสียเงาอัศนีรุ่นที่4กับเสียเงาพายุรุ่นที่4ไปพร้อมๆกัน เงาแห่งเปลวอัคคีที่รอดมาได้เพียงหนึ่งเดียวนั้นก็บาดเจ็บสาหัสทีเดียว ทำให้พันธมิตรนินจาตอนนี้สั่นคอน ไปตามๆกัน


เมื่อสถานการณ์เริ่มสงบลง กองกำลังนินจาแคว้นต่างๆก็เริ่มทยอยเดินทางกลับแคว้นของตน ด้วยความโศรกเศร้าเสียใจ

ณ ห้องที่ปรึกษาหมู่บ้านวายุแคว้นภูผา

"ขอรายงานครับ" นินจาผู้นึงในหน่วยลับแห่งหมู่บ้านวายุปรากฎตัวขึ้นพร้อมกับคุกเข่าทำความเคารพต่อหน้า4ที่ปรึกษาผู้เฒ่าประจำหมู่

"ว่ามา" ผู้เฒ่าผู้นึงคือท่านคุโระคะเซะ ชิเงะโคคุ ผู้เป็นหัวหน้าหน่วยลับ รีบสั่งให้นินจาลับผู้นั้นรายงานสถานการณ์

"ตอนนี้กองกำลังได้อยู่ในระหว่างเดินทางกลับหมู่บ้านครับ พึ่งเข้าชายแดนแคว้นภูผาของเรา ทางเราเสียท่านรุ่นที่4ไปครับ ส่วนกองกำลังที่เราส่งไปช่วยนั้นรอดกลับมาไม่ถึงครึ่งครับ" นินจาลับผู้นั้นรายงานพวกผู้เฒ่าด้วยความหดหู่ใจเป็นอย่างยิ่ง

ตึ้งงงงงงงงงงงง เสียงตบโต๊ะดังขึ้น ด้วยอารมณ์โกรธ "พวกหุบเหวมันทำเกินไปแล้วแบบนี้เท่ากับมันประกาศสงครามนินจากับเรา" ผู้เฒ่าจากตระกูลฟูมะ ท่านฮิรุเซน กล่าวขึ้นพร้อมกับสีหน้าโกรธแค้นนินจาอีกหมู่บ้านเป็นอย่างมาก

ก่อนที่ท่านฮิกาชิยามะ ฟูโกะ คุโนะอิจิหนึ่งเดียวใน4ผู้เฒ่าจะกล่าวขึ้นว่า "ท่านฟูมะ ฮิรุเซนโปรดสงบสติอารมณ์ของท่านลงก่อน เพราะในตอนนี้เราต้องคำนึงถึงความมั่นคงของหมู่บ้านวายุ และแคว้นภูผาของเราเป็นหลัก ซึ่งแน่นอนว่าเราขาดเงาพายุไม่ได้" นางพูดอย่างใช้สติไตร่ตรอง แต่ก็ยังมีหยาดน้ำตาเล็กๆไหลออกมาพอสังเกตุได้เนื่องด้วยคนที่เสียชีวิตไปคือ รุ่นที่4หรือพี่ชายแท้ๆของนางเอง แต่นางก็ยังคงคุมสติตัวเองอย่างรอบคอบ และคุมอาการได้อย่างดีเยี่ยม

"เรื่องนี้ข้าเห็นด้วยกับฟูโกะ" ท่านฮิกาชิยามะ ชิซุยผู้เป็นสามีท่านฟูโกะกล่าวสนับสนุนเสริม

"งั้นสิ่งที่เราควรทำตอนนี้คือเรียกประชุมนินจาเพื่อคัดสรรหานินจาที่จะมาเป็นเงาพายุรุ่นที่5กัน" ท่านคุโระคะเซะ เพิ่มเติมข้อควรจัดการต่ออีก3ผู้เฒ่า

"งั้นข้าก็ไม่คัดค้านอะไรใรเมื่อท่านทั้ง3เห็นเสียงเดียวกันแบบนี้" ท่านฟูมะกล่าว

"เอาละตกลงว่า เราจะประชุมเลือกเงาพายุรุ่นที่5เมื่อ กองกำลังที่ส่งไปช่วยแคว้นท้องฟ้ากลับมาถึงหมู่บ้าน และรีบส่งข่าวให้นินจาหมู่บ้านเราที่ทำภารกิจต่างๆทั้งหมดกลับสู่หมู่บ้านเพื่อเข้าร่วมงานไว้อาลัยท่านรุ่นที่4 และนินจาที่เสียชีวิตไปในสงครามครั้งนี้" ท่านฟูโกะสั่งนินจาลับคนที่มารายงานสถานการณ์ให้ไปส่งคำสั่งต่อ พร้อมกับให้หน่วยลับส่วนนึงออกไปคุ้มกันนินจาที่จะกลับมาด้วย แล้วสั่งเพิ่มอีกว่า
"เรียกโทโมอากิเข้ามาพบข้าด้วย บอกผ่านทางโนวากิ ซาคุซึ่งเป็นอาจารย์ประจำกลุ่มนะ"

พอสั่งการต่างๆเสร็จ นินจาลับคนนั้นก็รีบหายตัวออกไปทันที 4ผู้เฒ่าจึงเริ่มแสดงสีหน้ากังวลกันมากกว่าเมื่อครู่เสียอีก เพราะพวกเขาเป็นนินจาที่มากด้วยประสบการณ์ และยังเป็นถึงที่ปรึกษาประจำหมู่บ้าน จะมาทำตัวอ่อนแอต่อหน้าลูกน้องไม่ได้นั่นเป็นสิ่งที่พวกเค้ารู้กันดี จึงพากันตีสีเข้มตลอดเวลาที่ออกคำสั่ง เพื่อไม่ให้นินจาที่เป็นลูกน้องวิตกกังวล


ณ ป่าทางทิศตะวันออกของหมู่บ้านวายุ

ฉึก! ฉึก! ฉึก! เสียงปาดาวกระจายเข้าเป้าอย่างแม่นยำ เด็กชายวัยตัวรุ่นค่อนข้างโปร่งน่าตาหน้ารักทีเดียว เขายืนปาดเหงื่อท่ามกลางป่าเขา เขาตั้งใจฝึกฝนวิชานินจาด้วยความขยันมาโดยตลอด ด้วยจุดประสงค์ที่ว่าอยากเป็น เงาแห่งพายุเหมือนตาของเขา ดูเหมือนว่าเด็กชายคนนี้จะยังไม่รู้เรื่องอะไรจากสงครามที่แคว้นท้องฟ้าเลย เขารู้เพียงแค่ว่าคุณตาไปทำภารกิจประชุมผู้นำหมู่บ้านจึงไม่ได้คิดอะไรมาก แต่เขาก็รู้ดีว่า

"ชีวิตของนินจามันแขวนอยู่บนเส้นด้ายที่บางเบา และสามารถขาดได้ทุุกเวลา" เพราะท่านตาเขาสอนให้ท่องจำเอาไว้เสมอ เขาจึงพยายามฝึกเพื่อให้ตนเองเหนือกว่าคนอื่นๆในรุ่นเดียวกัน ซึ่งก็เป็นไปตามที่ตาของเขาต้องการและตามที่เขาตั้งใจ เพราะตอนนี้นินจาหน้าใหม่ ที่ถือว่าเป็นแนวหน้าของหมู่บ้านวายุนั้นมีเขารวมอยู่ด้วย

แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อมีเปลวเพลิงพุ่งมาโจมเขาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว พร้อมเสียงเรียกชื่อคาถาอย่างดัง
"วิชานินจาไฟคาถาเพลิงกระจาย" เพลิงนั้นพุ่งมาเร็วมากจนประทะไปที่ตัวเด็กหนุ่มอย่างจัง จนทำให้ผู้ร่ายคาถานั้นตกใจด้วยความเป็นห่วง เขารีบเข้าไปดูเด็กชายผู้ถูกโจมตีอย่างรวดเร็ว

"โทโมอากิ นายอย่าเป็นอะไรนะ" เขาพูดพร้อมดูเหมือนจะร้องให้ ทันใดนั้นเองร่างที่เขาเห็นก็กลายเป็นท่อนไม้ พร้อมกับมีคนเอาคุนัย(มีดสั้นนินจา)มาจี้ที่หลังคอเด็กหนุ่มอีกคนที่ดูเหมือนจะร้องให้อยู่

"เทรุ นายนี่มันอ่อนหัด ตลอดเลยนะ" โทโมอาคิพูดกับเด็กหนุ่มอีกคนเชิงดูถูก ก่อนที่จะหัวเราะเพื่อนชายตน

"คาวาริโนะมิ...(วิชาสลับร่าง)งั้นรึ" เทรุหายตกใจพร้อมอุทานมันออกมา ก่อนที่จะหันมาพูดกับโทโมอากิต่อ

"เจ้าบ้าเอ้ย ฉันนึกว่าเจ้าหลบไม่ทันซะอีก ฉันกล้ว...กลัวที่จะเสียนายไป" เทรุพูดเหมือนกับเหมือนน้ำตาจะไหล พร้อมโผเข้ากอดที่โทโมอากิไม่เป็นอะไร ด้วยความเป็นห่วงเขาจึงกอดแน่นมาก

"ปล่อยเรานะ เทรุ เราอึดอัด ถ้านายไม่ปล่อยเรา เราจะฆ่านาย" โทโมอากิพูดด้วยน้ำเสียงน่ากลัวเล็กน้อยแต่ไม่ได้ทำให้เทรุกลัวเลย แถมเทรุยังใช้จังหวะที่โทโมอากิเผลอ หอมแก้มโทโมอากิไปฟอดนึงเต็ม ก่อนจะยิ้มแบบเจ้าเล่แล้วหอมแก้มโทโมอากิอีกที ทำให้โทโมอากิอายจนต้องดิ้นสุดตัวจนหลุดได้ในที่สุด และร่ายคาถาตอบโต้อย่างรวดเร็ว

"วิชานินจาลมคาถาสายลมพันธนาการ"โทโมอากิการสร้างคุกสายลมเพื่อพันธนาการเทรุนั่นเอง

"เมื่อครู่นายทำกับเราเอาไว้แสบนัก คราวนี้เราขอเอาคืนบ้าง" สิ้นคำพูดโทโมอากิก็ซัดดาวกระจายออกไปพร้อมกันถึง3อัน พร้อมกับตั้งอินร่ายคาถาตามลำดับ

"วิชานินจาคาถาแบ่งภาคดาวกระจาย"ทำให้ดาวกระจายที่ซัดออกไปทั้งหมดมีมากมายและเป็นของจริงทั้งหมด ดาวกระจายมุ่งตรงไปที่เทรุอย่างแม่นยำทำชุดเขาขาดหวิ่นไปหลายที่เลยทีเดียว ก่อนที่จะมีปราการดินขึ้นมาขวางดาวกระจายชุดที่เหลือ

"วิชานินจาดินคาถากำแพงพสุธา" เสียงร่ายคาถาดังมาจากต้นไม้บริเวณที่โทโมอากิฝึกอยู่ จนทำให้โทโมอากิต้องมองขึ้นไปด้วยความโกรธนิดๆ

"ชุน นายมาขัดเราแบบนี้มันไม่เหมาะเลยนะ" โทโมอากิทักเด็กชายตัวใหญ่โตอีกคนบนต้นไม้ด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์เท่าไร

"ขออภัยครับท่านโทโมอากิ พอดีว่าผมตรวจจับพร้อมคำนวนแล้วว่า ถ้าปล่อยให้เทรุโดนดาวกระจายของท่าน เขาอาจบาดเจ็บสาหัสได้ครับ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อกลุ่มเราแน่ๆครับ" ชุนรีบกล่าวขอโทษโทโมอากิพร้อมอธิบายเหตุผลให้โทโมอากิฟัง ก่อนที่โทโมอากิจะเปลี่ยนสีหน้ากลับมาหัวเราะอย่างร่าเริง

"ฮ่าๆๆๆ เรารู้ว่านายมานานแล้ว แล้วก็รู้ด้วยว่านายกับฮารุซุ่มอยู่บนต้นไม้" โทโมอากิพูดอย่างคำนวนไว้แล้วเหมือนกันว่าเรื่องต้องออกมาประมาณนี้ พร้อมพูดต่อ
"ถึงนายจะให้ ฮารุ ซ่อนจักระให้นายแต่มันก็ปิดเราไม่ได้ เนื่องจากนายกับเรามีจักระที่คล้ายกันมาก การตรวจจับจักระของเราจึงจับจักระนายได้อย่างแม่ยำ"

ขณะที่โทโมอากิมัวอธิบายอยู่นั้นเอง การโจมตีระลอกใหม่ก็ได้เริ่มขึ้น แต่เป็นการโจมตีระยะประชิดจนเขาเองหลบแทบไม่ทัน เฉี่ยวตัวไปไม่ถึงนิ้วจนเซไปทางที่เทรุยืนอยู่แต่ทว่า ตอนนี้เทรุนั้นหลุดจากคาถาที่ร่ายพันธนาการไว้แล้ว จึงรับโทโมอากิเข้าไปกอดอีกครั้ง โทโมอากิเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของเทรุคราวนี้ ถึงกับอายจนหน้าแดงเพราะอยู่ต่อหน้าเพื่อนๆ ก่อนจะผลักเทรุออกไปจากตนแล้วเริ่มมองหาผู้ที่โจมตีระลอกที่แล้ว ก่อนที่จะทำหน้าเอาจริง พร้อมพูดว่า

"ฉันเริ่มจะสนุกแล้วสิ ฮารุ เจ้าซ่อนจักระได้ดีมากๆ ทำให้เราตรวจจับจักระของ เทนอิทซึ ไม่เจอเลย แต่เราไม่แพ้พวกนายหรอกนะ" โทโมอากิพูดอย่างขึงขังพร้อมกับกัดนิ้วตัวเองให้เลือดออก แล้วหยุดเลือดลงพื้นแล้วตั้งอินร่ายคาถาในทันที
"โซ่สวรรค์จงปรากฎต่อหน้าเราผู้เป็นเจ้านายแห่งเจ้า"สิ้นคำอัญเชิญแล้ว สายโซ่ก็ออกมาจากนิ้วโป้งด้านขวามือของโทโมอากิ แล้ววิ่งไปหาชุนที่นั่งอยู่บนต้นไม้ พร้อมกับไปพันรอบที่ดาบของชุน เพื่อสร้างดาบที่คล้ายกับของชุน เพื่อเป็นอาวุธให้โทโมอากิผู้ใช้โซ่

"ชุน ดาบนาย เราขอก๊อปก่อนนะ" โทโมอากิกล่าวกับชุน เมื่อโซ่สวรรค์เลือกดาบของชุนไป

"ไม่มีปัญหาครับ ท่านโทโมอากิ" ชุนให้โทโมอากิสร้างดาบใหม่ที่คล้ายของตนไปด้วยความเต็มใจ

แล้วการโจมตีระยะประชิดจากเทนอิทซึก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง แล้วครั้งนี้ดูเหมือนว่าโทโมอากิจะดักทางโจมตีได้ถูก และสะกัดการโจมตีของเทนอิทซึได้ตลอด เทรุเองเห็นว่าเทนอิทซึไม่มีทางโจมตีโทโมอากิได้แน่ๆ จึงให้สัญญาณไปยัง ชุน เมื่อชุนเห็นสัญญาณสัญญาณจากเทรุก็รุ้ได้ว่า เทรุจะเอาจริงเหมือนกัน ชุนจึงต้องกางคาถาดินไว้ให้พร้อมเพื่อเซฟทุกคนจากการฝึก เขาเริ่มตั้งอินอย่างรวดเร็ว แล้วกระโดดลงไปยังโขดหินขนาดใหญ่ด้านล่าง ก่อนจะเอากางฝ่ามือทั้งสองข้างลงบนโขดหินพร้อมร่ายคาถา
"วิชานินจาดินคาถาเตรียมปราการ" คาถานี้ต่างจากคาถากำแพงพสุธาตรงที่ว่า สามารถป้องกันเป้าหมายได้ทันที โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งที่ใช้ ทำให้กางปราการดินต่อเนื่องได้ เมื่อเทรุเห็นชุนเซทการป้องกันเสร็จ ก็ตะโกนไปบอกโทโมอากิอย่างรวดเร็ว

"งานนี้ฉันขอล้มนายด้วยคนนะ โทโมอิกิ" พร้อมกับยิ้มแล้วเขาประจันหน้าตรงๆกับโทโมอากิด้วยดาบคู่ ฮารุเองจึงกระโดดลงมาอยู่ด้านหลังชุน ก่อนที่จะตั้งอินพร้อมร่ายคาถาซ่อนจักระ เทรุด้วยอีกคน

"วิชานินจาลับคาถาซ่อนจักระ" เมื่อฮารุร่ายคาถาเสร็จทำให้ โทโมอิกิจับทางโจมตีจากทั้งเทรุและเทนอิทซึไม่ทัน โดนสันดาบของเทรุเข้าไปเต็มๆ แต่ก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก ดูเหมือนว่าเทรุจะยั้งมือเสมอเมื่อสู้กับโทโมอากิทั้งๆที่ เมื่อครู่เขาสามารถชนะได้ เขายิ้มให้โทโมอากิอย่างเจ้าเล่เช่นเดิม ทำไห้โทโมอากิเสียสมาธิไปอีกครั้ง แล้วเทนอิทซึก็โจมตีมาจากด้านบนอย่างรวดเร็ว ทำให้โทโมอากิกระเดนไปข้างหลัง แต่ด้านหลังเขาก็มีเทรุมารออยู่แล้ว

"บัดซบที่สุด" โทโมอากิ สบถออกมา แต่ดูเหมือนว่าไม่ทันแล้ว เขากำลังลอยไปหาเทรุอีกแล้ว ซึ่งก็เป็นอีกครั้งที่เทรุรับด้วยอ้อมกอดที่อบอุ่นเหมือนทุกครั้ง แต่โทโมอากิก็สลัดเทรุออกอีกครั้ง เลยทำให้เทนอิทซึโจมตีต่อเนื่องได้ แต่ครั้งนี้โทโมอากิหลบไม่ทันแน่ๆ ชุนเลยตัดสินใจกั้นปราการดิน ทำให้โทโมอากิโดนปราการดินกั้นไปพร้อมๆกับเทรุที่อยู่ติดๆกัน จนทั้งคู่ติดอยู่ในปราการดินนะยะนึง ซึ่งทั้งคู่ต้องยืนติดกันจนเรียกได้ว่าเบียดกันเลยทีเดียว เพราะปราการดินนั้นจะกันเฉพาะทีละคน พอลดปราการดินลงโทโมอากิก็หลบสายตาเทรุอย่างเขินอาย ก่อนที่เพื่อนๆจะพากันหัวเราะออกมา ทำให้โทโมอากิอายมากกว่าเดิม

"เจ้าถึงกับเคลื้มเลยหรือ โทโมอากิ" เทนอิทซึเด็กผู้หญิงห้าวๆในกลุ่มแซวโทโมอากิเล่น

"เรา...น่ะ เอ่อ เราอ่ะ...." โทโมอากิอ้ำๆอื้งๆถึงกับพุดไม่ออกจากที่เป็นคนพูดจาฉะฉาน

"เอาน่าข้าก็ไม่ได้ว่าอะไรเจ้านี่นา" เทนอิทซึกล่าวพร้อมกับตบบ่าโทโมอากิอย่างเพื่อนสนิทกัน

ทันทีทันใดนั้นเอง ก็มีเงามาปรากฎอย่างรวดเร็วบริเวณบนต้นไม้ ซึ่งทั้ง5ก็ขว้างดาวกระจายและคานุยออกไปพร้อมกัน ทั้งดาวกระจายและคานุย พุ่งใส่เป้าหมายอย่างรวดเร็ว แล้วทันใดนั้นอาวุธขว้างทั้งหมดก็โดนดาบ ของผู้ที่มาปรากฎตัวสะกัดอย่างรวดเร็ว และกระจายออกไปคนละทาง เมื่อทุกคนได้เห็นดังนั้นก็พากันยิ้มให้บุคคลนั้นและก้มหัวทำความเคารพให้บุคลนั้นทันที เขาก็คืออาจารย์ผู้เป็นนินจาระดับสูง(โจนิน) โนวากิ ซาคุ นั่นเอง

"พวกเจ้าพัฒนาไปมากนะ มากจนข้าตกใจเลยทีเดียว ข้าซุ่มดูอยู่นานแล้วละอินฟอร์เมชั่น พวกเจ้าถือว่าดีมาก การสอบเลื่อนขั้นเป็น โจนินคงไม่มีปัญหาอะไรแน่ๆ" ซาคุกล่าวชมลูกศิษย์ในกลุ่มตัวเองฟัง พร้อมกับจับจุดอ่อนจากการฝึกไปเมื่อสักครู่ และอธิบายจุดอ่อนนั้นๆให้ลุกศิษย์ในกลุ่มฟังอย่างละเอียด โดยใช้เวลาอยู่ระยะนึง ซึ่งเหล่าเด็กๆก็ตั้งใจฟังเป็นอย่างดี

บทสนาจบลงได้ไม่นาน นินจาจากหน่วยลับก็ปรากฎตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมที่แจ้งข่าวจากสงคราม
"รายงานครับ" นินจาจากหน่วยลับกล่าว

"ครับ โนวากิ ซาคุ อาจารย์โจนินกลุ่มมังกร" ซาคุกล่าวรายงานตัวก่อนรับฟังรายงาน

"คือ...ว่า...." นินจาจากหน่วยลับทำท่าอ้ำๆอึ้งๆก่อนที่จะมาไปยังโทโมอากิ ทำให้ซาคุ พอที่จะเข้าใจความหมายว่ามันคืออะไร ซาคุจึงให้เด็กๆหลบออกไปก่อน จากนั้นนินจาจากหน่วยลับก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ซาคุเองก็ตกใจกับเรื่องที่เกิดในแคว้นท้องฟ้าเช่นกัน เขาเป็นนินจาฝีมือเยี่ยมก็จริงแต่ที่เขาไม่ได้เข้าร่วมสงคราม เพราะว่ากลุ่มผู้เฒ่าต้องการให้เขาป้องกันหมู่บ้าน ทำให้เขาต้องทำตามคำสั่งอย่างหลี้เลี่ยงไม่ได้

ซาคุ เองเดินไปหาเด็กๆลูกศิษย์ที่รออยู่ริมบึง ก่อนที่จะบอกแยกย้ายเด็กๆให้กลับบ้านได้ ทุกคนกำลังจะแยกกันกลับบ้าน ซาคุก็ทักท้วงโทโมอากิเอาไว้ก่อน บอกว่ามีเรื่องอยากคุยด้วยให้ตามเขาไป โทโมอากิเดินตามซาคุเข้าไปยังที่ทำงานของเงาหมู่บ้าน ด้วยความสงสัยโทโมอากิจึงถามขึ้น

"อาจารย์ซาคุ พาผมมาที่นี่ทำไมครับ คุณตาก็ไม่อยู่นี่นา" โทโมอากิทำท่าสงสัยก่อนที่จะคิดแล้วพูดออกมาอย่างดีใจว่า

"หรือว่าคุณตากลับมาแล้ว" ยิ่งทำให้เขาตื่นเต้นและดีใจมากกว่าเดิม แต่ก็ไม่มีเสียงตอบจากผู้เป็นอาจารย์เลยแม้แต่น้อย เขาได้แต่พาโทโมอากิเดินไปอย่างเงียบๆ จนถึงห้องที่ปรึกษา โทโมอากิเห็นผู้เฒ่าแล้วก็ก้มหัวคำนับด้วยความเคารพ ก่อนที่จะค่อยเงยหน้าขึ้น ท่านฟูโกะ กวักมือเรียกเด้กชายไปนั่งใกล้

"มาหายายมาโทโมอากิเอ้ย" เด็กหนุ่มก็ไปนั่งข้างๆท่านฟูโกะอย่างเรียบร้อย ท่านฟูโกะเองก็ลูบหัวโทโมอากิด้วยความรัก พร้อมกลับเริ่มร้องให้ออกมา และคร่ำครวญว่า

"โทโมอากิช่างเป็นเด็กที่น่าสงสาร เสียพ่อแม่ไปแต่เด็ก และยังต้องมาเสียคนที่รักไปอีก" ท่านฟูโกะพูดจบเด้กหนุ่มก็เริ่ทเดาความหมายได้จึงน้ำตาไหลออกมา พร้อมกับเข้าไปกอดท่านฟูโกะอย่างแน่นขึ้น พร้อมถามพลางน้ำตาไปด้วยสะอื้นไปด้วยว่า

"มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหมครับท่านยาย?"เขาถามทั้งเสียงที่สะอื้นออกมาอย่างสุดๆ ทำเอาเหล่าผู้เฒ่าน้ำตาคลอเบ้ากันเลยทีเดียว "ไม่เป็นไรนะหลานรัก อยู่กับยายต่อไป เจ้าไม่ได้อยู่คนเดียวนะ ถึงตอนนี้ยายจะแต่งงานมาอยู่กับตระกูลฮิกาชิยามะ แต่ยายก็เกิดมาในตระกูลอามะโทบิระเช่นเดียวกับหลาน หลานจะต้องอยู่ต่อไปเพื่อตระกูลของเรานะ" หญิงชราผู้น่าเกรงขามร้องทั้งน้ำตานองหน้า พร้อมกอดหลานชายสุดที่รักไว้อย่างแน่น

"เจ้าอย่าคิดอะไรมากเลย พี่ฟูกะ(รุ่นที่4)เขายังคงอยู่ข้างๆเจ้าเสมอไม่ได้ไปไหนไกลหรอก" ท่านฟูโกะปลอบโทโมอากิแต่ตัวเองก็ร้องให้ไปด้วยเช่นกัน ทั้งคู่กอดกันร้องให้อยู่นานมาก ก่อนที่โทโมอากิจะร้องให้จนหลับไปในที่สุดในอ้อมแขนของผู้เป็นยายซึ่งเป็นน้องสาวแท้ๆของเงาพายุรุ่นที่4

ท่ามกลางความโศรกเศร้าเสียใจของคนทั้งแคว้น การไว้อาลัยจึงเริ่มตั้งแต่คืนนี้ไปเป็นเวลา7วัน มันเป็นความทรมานเหลือการสำหรับ เด็กชายคนนึงที่ต้องเสียพ่อแม่ไป แล้วยังจะมาเสียตาที่เลี้ยงเขามาไปอีกคน วันนี้ช่างหนักหนาสาหัสเหลือเกินกับเด็กชายคนนึงที่นอนอยู่ตรงนี้...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น