วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

mihimaruGT / 幸せになろう



なにげない日々も 
つまずきそうな日々も 信じれる
必ず 幸せになろう
ねぇ、少しだけ聞いて欲しい
例えば一人悲しいとき
必ず 變わらずいつも
あなたの傍にいるよ
うまく言えないけれど
賴りない私だけど
一緒に泣いたり
重荷を分かち合いたい
その頰にキスをしよう
朝が來るまで一緒にいよう
不器用なRAP SONG
この唄に愛を隱そう
きっと 悲しいこと 
嬉しいこと 全てある
何が大切かわからなくなる
それでも私は 
あなたさえいればそれでいい
必ず 幸せになろう
ららら ちっぽけなLOVE SONG
今日もこの音を紡ぐ
未來をくれた
大切なあなたへ
そう、迷う時だってある
信じることが怖くなる
愛されたいと願って
愛すること忘れて
思うようにいかなくて
逃げ出す事もあるけど
慰めや噓は言わない
私からは何も聞かない
二人きりで夢を話そう
あなたの好きなラテをいれよう
不器用なRAP SONG

この唄に愛を託そう
きっと 疑うこと 信じること 繰り返す
何が大切かわからなくなる
それでも私は 
あなたさえいればそれでいい
必ず 幸せになろう
ららら ちっぽけなLOVE SONG
今日もこの音を紡ぐ
あなたへ屆けこの言葉
さぁ、遠く遠く響け
いつもと變わらない電車の車窗
ホ一ムで待っていた あなたの顏
辿り著いた いつもの場所
許された時間をあなたと
遮斷機の音を聞くたびに
あなたのこと もっと好きに…
お願い神樣 このまま 
何もいらないから
屆け ちっぽけなLOVE SONG
あなたさえいれば 
どこだって辛くない
愛する力が 私を變えてく
なにげない日々も 
つまずきそうな日々も 信じれる
必ず 幸せになろう
きっと 悲しいこと 
嬉しいこと 全てある
何が大切かわからなくなる
それでも私は 
あなたさえいればそれでいい
必ず 幸せになろう
ららら ちっぽけなLOVE SONG
今日もこの音を紡ぐ
未來をくれた
大切なあなたへ

วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

นินจามหาเวทย์ ตอนที่3

ในที่สุดทางผู้บริหารแคว้นก็ได้ตัดสินใจเลือก อามะโทะบิระ ฮิเดะอากิ ขึ้นเป็น เงาแห่งพายุรุ่นที่5 ต่อจาก อามะโทะบิระ ฟูกะ (หรือท่านรุ่น4) งานไว้อาลัยผ่านไปได้2วัน ภาระกิจสำคัญของหมู่บ้านวายุก็ต้องเริ่มขึ้น เพราะขณะนี้นั้นผู้ที่จะมาเป็นรุ่นที่5 ไม่ได้อยู่ในหมู่บ้านแต่เขาได้เดินทางไปยังดินแดนต่างๆ เพื่อแสวงหาวิชานินจาใหม่ๆและฝึกฝนตัวเอง มีนินจาในหน่วยลับรายงานถึงเขาผู้นี้อยู่เรื่อยๆแต่เขามักจะอยู่ไม่เป็นที่ จึงทำให้การตามตัวมารับตำแหน่งค่อนข้างยุ่งยาก อีกทั้งหมู่บ้านแสงเองก็ส่งคนมาขอกำลังไปช่วยป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ในงานแต่งตั้งเงาสวรรค์รุ่นที่3อีกด้วย ทำให้หมู่บ้านวายุต้องแบ่งกำลังไปช่วยหมู่บ้านแสงตามคำขอ และยังต้องจัดทีมตามหาท่านฮิเดะอากิ สุดท้ายยังต้องมีทีมรักษาหมู่บ้าน ทำให้ภาระกิจตามหาท่านรุ่น5 ตกมาอยู่กับพวกนินจาระดับกลางซะส่วนใหญ่ และแน่นอนว่าทีม12(หรือรู้จักกันในนามกลุ่มมังกรแห่งหมู่บ้านวายุ)ของโทโมอากิเอง ก็ต้องรับภาระกิจตามหานี้ด้วยอีกกลุ่ม

ทีม12(มังกร) เป็นทีมที่แข็งแกร่งมากทีมนึง ทุกคนในทีมนี้มีพรสวรรค์มากกว่าทีมอื่นๆ และยังเป็นแนวหน้าของรุ่นอีกด้วย เป็นทีมที่ประกอบด้วยสมาชิกจากตระกูลใหญ่ๆของหมู่บ้านวายุ โดยมีโนวากิ ซาคุ เป็นนินจาอาจารย์ผู้ควบคุมทีม ซาคุเองก็เป็นลุกศิษย์โดยตรงของฮิเดะอากิอยู่แล้ว จึงทำให้มีฝีมือค่อนข้างเยี่ยมเหนือกว่าหลายๆคน เนื่องจากมีทักษะและมีพรสวรรค์ในการฝึกวิขานินจา ที่สำคัญคือมีความเร็วราวกับสายลมจนได้ฉายาว่า"จ้าววายุ"

คนแรกก็คือหัวหน้าทีม(ไม่นับรวมอาจารย์ประจำทีมนะ) ก็คือ เด็กชายผู้เป็นตระกูลหลักแห่งพวกสายเลือดพิเศษโซ่สวรรค์ อะมะโทบิระ โทโมอากิ นั่นเอง เด็กหนุ่มผู้ได้ฉายา"เทวีโซ่สวรรค์" พรสวรรค์ที่มากล้นของเขา ทั้งสติปัญญาในการฝึกวิชานินจาและทั้งจักระที่อยู่ในระดับที่มากกว่าคนอื่นๆ ทำให้เขาได้เปรียบเพื่อนๆในรุ่นเดียวกันมาก และกลายมาเป็น1ใน10นินจาที่โดดเด่นของรุ่นแห่งหมู่บ้านวายุ

ถัดมาก็คือ อะมะโทบิระ ชุน เด็กหนุ่มจากตระกูลสาขาอะมะโทะบิระ ผู้ซึ่งเคยติดตามตระกูลหลักอย่างโทโมอากิ เนื่องด้วยตะกูลสาขานั่นมีหน้าที่ปกป้องตระกูลหลักด้วยชีวิตตัวเอง ชุนเป็นเพื่อนสนิทกับโทโมอากิมาโดยตลอดและสอบมาเป็นนินจาพร้อมๆกันกับโทโมอากิ ความสามารถของชุนนั้นไม่โดดเด่นเรื่องการโจมตีแต่เด่นเรื่องสนับสนุนมาก และเป็นคนแรกของทีมที่ใช้คาถาได้ถึง3ธาตุคือ ลม ดิน และน้ำ ชุนนั้นใช้ดาบได้ไม่เก่งเท่าการประสานอินก็ตาม แต่เขาก็มีฝีมือดาบที่ดีพอตัวทีเดียว

คนที่3 คือ คุโระคะเซะ เทรุ ถึงตระกูลเขาจะเป็นตระกูลที่ทำหน้าที่คุมหน่วยลับของหมู่บ้านมาโดยตลอดแต่เขาก็เลือกที่จะใช้ชีวิตไปกลับเพื่อนๆในทีม มากกว่าที่จะคอยไปฝึกเพื่อรับหน้าที่ในตำแหน่งหัวหน้าหน่วยลับรุ่นต่อๆไป เด็กหนุ่มผู้นี้บ้าระห่ำที่สุดในทีม เป็นคนที่โจมตีได้ดีที่สุดในทีม และยังถนัดการใช้ดาบคู่เป็นอาวุธในการโจมตี ส่วนเรื่องคาถานินจานั้นไม่ค่อยเห็นใช้ซักเท่าไรแต่ก็ไม่ได้เป็นลองใคร โดยคาถาส่วนใหญ่ที่ใช้จะเป็นคาถาธาตุลม ไฟ ซึ่งช่วยให้เขาโจมตีได้รวดเร็วและดุดัน

คนที่4 เป็นสาวห้าวเพื่อนสนิทที่สุดในชั่วโมงวิชาดาบของโทโมอากิ และเป็นนินจาหญิงที่มีวิชาดาบดีที่สุดในรอบ 10ปี เธอก็คือ ฟูมะ เทนอิทซึ นินจาจากตระกูลฟูมะที่มีจุดเด่นด้านการแปลงธาตุของจักระเข้าดาบ เพื่อใช้เป็นวิถีโจมตีของดาบ ทำให้เธอกลายเป็นกำลังสำคัญด้านการโจมตีอีกคนของทีม ฝีมือดาบอันไร้เทียมทารของเธอชนะโทโมอากิกับเทรุมาแล้ว และเธอยังคอยสอนเทคนิคการใช้ดาบให้โทโมอากิและเพื่อนๆในทีมอยู่เสมอ แต่เธอก็มีจุดอ่อนตรงที่ว่าใช้คาถานินจา(การประสานอิน)ได้แย่ที่สุดในทีมเช่นกัน

คนสุดท้ายสาวหวานน่ารักจากตะกูล ฮิกาชิยามะ หลานสาวแท้ๆของท่านฟูโกะ ฮิกาชิยามะ ฮารุ ที่ถนัดวิชาการซ่อนจักระและค้นหาจักระ คุโนะอิชิฝีมือเยี่ยมอีกคนที่เป็นสายตรวจจับและประสานอินโดยเฉพาะ มักจะทำหน้าที่เป็นกองหลังร่วมกับชุนอยู่เสมอ จุดอ่อนเธอนั้นคือเรื่องการใช้ดาบ เพราะนินจากลุ่มมังกรนี้จะพกดาบกันทุกคนและตัวฮารุเองด้วย ถึงใช้ดาบได้ไม่เก่งก็จำเป็นต้องพกดาบ เพราะการอยู่ในทีมที่มาอาจารย์ประจำทีมเป็นนินจาดาบ จำเป็นต้องเรียนวิชาดาบควบคู่ไปด้วย



ณ หน้าหอคอยสายลม

เหล่าจูนินของหมู่บ้านก็ได้มารวมตัวกันที่ลานหน้าหอคอย ไม่นานนักก็มีนินจาระดับสูงมาปรากฎตัวที่หน้าพวกเขาอย่างรวดเร็ว นั่นคือ ท่านฮิกาชิยามะ ชิซุย พร้อมด้วยโจนินอีกสองคนนั่นเอง ทันทีที่เหล่าจูนินเห็นก็ต่างพร้อมกันก้มศีรษะ เพื่อทำความเคารพท่านชิซุยกันทันที จากนั้นท่านชิซุยก็ได้แจ้งภาระกิจให้จูนินแต่ละกลุ่มว่าต้องไปที่ไหนอย่างไร จนมาถึงทีมมังกรได้รับภาระกิจไปยังบริเวณ1ใน3ที่ ที่นับว่าอันตรายที่สุดในภาระกิจครั้งนี้ พอท่านชิซุยแจ้งจบก็บอกให้กลุ่มอื่นๆกระจายกันเริ่มภาระกิจได้ แต่ยังคงให้ทีมมังกรรอก่อน
จากนั้นไม่นานท่านฟูโกะ พร้อมด้วยซาคุก็ได้ปรากฎตัวขึ้นต่อหน้าเด็กๆในกลุ่ม เด็กทั้ง5คนก็ก้มหัวคำนับท่านฟูโกะเหมือนกับที่แสดงความเคารพต่อท่านชิซุยเช่นเดียวกัน

"อาจารย์ซาคุมาพอดีจะได้เริ่มปฎิบัติภาระกิจกัน" เสียงจากโทโมอากิเรียกชายผู้เป็นอาจารย์

"ภาระกิจนี้จะไม่มีซาคุเข้าร่วมทีมมังกร ซาคุจะต้องรับภาระกิจที่สำคัญกว่านั้นจึงไม่สามารถร่วมทีมไปกับพวกเจ้าได้" หญิงชรากล่าวออกมาอย่างนักใจเนื่องจากบริเวณภาระกิจนั้นค่อนข้างอันตราย

"บริเวณภาระกิจนั้น มีนินจาของหมู่บ้านคลื่นเข้ามาแทรกแซงบ่อยมาก การปะทะกันก็มีรายงานทุกสัปดาห์ บริเวณดังกล่าวอาจจะยากเกินระดับจูนินนะครับ" ซาคุอาจารย์ประจำทีมให้ความเห็นกับท่านฟูโกะ และท่านชิซุย

"แต่จะให้เจ้าร่วมภาระกิจไปด้วยก็คงเป็นไปไม่ได้อีกเพราะเจ้าต้องเป็นตัวแทนหมู่บ้านเรา ไปร่วมในพิธีแต่งตั้งเงาแห่งสวรรค์รุ่นที่3พร้อมข้า" ท่านชิซุยกล่าวเชิงบอกในสิ่งที่ซาคุจะขอว่าเป็นไปไม่ได้

"เมื่อไม่มีซาคุทีมย่อมมีกำลังต่ำลงมาก และไม่เป็นผลดีกับพวกเจ้าแน่ๆ ที่ไปยังบริเวณอันตรายขนาดนั้น" ท่านฟูโกะยิ่งคิดก็ยิ่งหนักใจจนในที่สุดสุด ก็ดูเหมือนว่าท่านจะจะหาทางออกได้แล้ว ท่านจึงทำการประสานอินและทางฝ่ามือลงบนพื้น
"วิชานินจาคาถาอัญเชิญ อัญเชิญราชาสุนัขนินจา เอ็นเคนโอ" สิ้นเสียงหญิงชรา ก็ปรากฎสุนัขนินจาตัวใหญ่ยักษ์ออกมา พร้อมด้วยเสียงเห่าที่ดุจกับราชสีคำราม

"มีอะไรหรือท่านฟูโกะ" เอ็นเคนโอถามถามด้วยความอ่อนน้อม

"ข้าอยากจะให้ท่านช่วย สักเรื่องนะคะ" หญิงชราพูดเชิงขอร้องด้วยความสุภาพและอ่อนโยนเช่นกัน

"ว่ามาเถอะท่านฟุโกะ พวกข้าก็รับใช้ตระกูลอามะโทบิระมาทุกๆรุ่น ตั้งแต่ท่านรุ่นแรกจวบจนท่านฟูกะสิ้นชีพ ข้าก็ช่วยพวกท่านจนสุดกำลังเช่นกัน" ราชาสุนัขตอบด้วยความภาคภูมิใจ

"งั้นข้าไม่เกรงใจแล้วนะคะ ข้ออยากให้ท่านช่วยคัดเลือกนินเคนในเผ่าของท่าน มาให้ข้าหน่อยค่ะ เพื่อช่วยในภาระกิจของหลานข้า" ท่านฟูโกะออกปากต่อราชาสุนัข

"ย่อมได้อยู่แล้วไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนี่นา" ราชาสุนัขตอบรับแต่ทันที พร้อมกับส่งนินเคน2ตัวออกมาแล้วกล่าวต่อว่า "ตามที่ท่านขอนะ ท่านฟูโกะนี่คือลูกชายของข้าเองจะช่วยในภาระกิจของหลานท่านครั้งนี้
คิบะสุเกะ ทซึเมะมารุ"

"ขอบคุณท่านมากค่ะท่านเอ็นเคนโอ" ท่านฟูโกะตอบพร้อมยิ้มขอบคุณ

"ว่าแต่ภาระกิจครั้งคือภาระกิจอะไรหรือ" ราชาสุนัขไม่วายที่จะถามต่อ

"เป็นภาระกิจตามหาท่านฮิเดะอากิครับ แต่ในครั้งนี้ไม่มีข้าร่วมภาระกิจด้วย" ซาคุรีบตอบไปในทันทีด้วยความเป็นห่วงศิษย์รักร่วมทีม

"อ๋องั้นหรือ งั้นข้าว่าภาระกิจนี้ ควรเพิ่มนินเคนด้านการติดตามไปช่วยด้วยอีกแรงนะ"
"ก็ดีค่ะ ถ้าท่านจะกรุณา" ท่านฟูโกะรีบเปิดทางในทันที ว่าแล้วเอ็นเคนโอ ก็เรียกนินเคนออกมาอีกตัว

"โอะฮานิ เจ้าจงตามเหล่าพี่ชายของเจ้าไปช่วยทีมมังกรในภาระกิจตามหานี้ด้วยนะ" เอ็นเคนโอสั่งลูกสาวซึ่งเป็นนินเคนตัวสุดท้ายที่เรียกออกมา เพื่อจะให้ไปช่วยในภาระกิจครั้งนี้

"โทโมอากิ เจ้าน่ะเป็นสายเลือก อามะโทบิระ เราและเหล่านินเคนในเผ่าจะคอยติดตามตระกูลเจ้าต่อไปทุกๆรุ่น อย่าได้ห่วงอะไรเลย" ราชาสุนัขกล่าวต่อโทโมอากิ

"ขอบพระคุณอย่างยิ่งครับ ที่ท่านให้ความกรุณาพวกผม และยังให้เหล่าลูกๆของท่านมาช่วยภาระกิจติดตามในครั้งนี้อีกด้วย" เมื่อกล่าวจบเด็กชายก็ก้มหัวทำความเคารพราชาสุนัขอย่างนอบน้อม

"ไม่เสียแรงที่เป็นเกิดมาในตระกูล อามะโทบิระ" สิ้นเสียงราชาสุนัขก็มีม้วนคาถาปรากฎต่อหน้าโทโมอากิ "ม้วนคาถาทั้ง2นี้ เจ้าจง ประทับตราเลือดซะ ลูชายทั้ง2ของข้าจะได้มาช่วยเจ้าได้ยามมีภัยหรือยามเจ้าต้องการเรียกใช้ จะได้ไม่ต้องให้ยายเจ้าเรียกอัญเชิญผ่านข้า "

"คิบะสุเกะ ทซึเมะมารุ โอะฮานะ จงเชื่อฟังโทโมอากินะ" เอนเคนโอสั่งลูกๆนินเคนทั้ง3ตัว ก่อนที่ราชาสุนัขจะหายตัวกลับไปยังที่อยู่แล้วทิ้งให้ๆลูกๆทั้ง3ตัวไปช่วยภาระกิจตามหาดังกล่าว

"เป็นโชคดีของทีมพวกเจ้านะ ที่ท่านเอ็นเคนโอให้ลูกๆมาช่วยถึง3ตัว" ท่านชิซุยกล่าวอย่าชื้นใจขึ้นมาก

"แบบนี้เจ้าจะว่ายังไงละซาคุ ข้าได้หากำลังเสริมมาให้ทีมเจ้าแล้วนะ" ท่านฟูโกะกล่าวต่อ

"เออ... คือ... ผมคิดว่าต่อให้มีนินเคนดีแค่ไหนถ้าเกิดการปะทะกันเข้าจริงๆ นินเคนก็คงช่วยได้ไม่มากเท่ากับถ้ามีคนในทีมเพิ่ม" ซาคุ ยังพูดอย่างห่วงๆลุกทีมของตน

แปะๆ เสียงปรมมือ2ทีดังขึ้นจากท่านฟูโกะ ก่อนที่จะมานินจาอีก2คนมาปรากฎยังข้างหลังของท่านฟูโกะ ด้วยท่าทางเคารพและนอบน้อม
"นี่เป็นนินจาจากหน่วยพิเศษเพื่อภาระกิจนี้โดยเฉพาะ คือนินจาจากตระกูลคะเซะนามิ ซึ่งเชี่ยวชาญด้านภูมิประเทศบริเวณดังกล่าวเป็นอย่างดี และนินจาจากตระกูลทะกะโอ(พวกสายเลือดพิเศษด้านการมองเห็นระยะไกล)" ท่านฟูโกะแนะนำนินจาทั้ง2ต่อทัมมังกร

"ได้คนมีฝีมือไปช่วยในภาระกิจเจ้าคงหายห่วงแล้วสินะซาคุ" ท่านชิซุยมองหน้าซาคุพร้อมถามคำถามออกไป

"ครับ ผมว่าผมคงลดความเป็นห่วงลงไปได้เยอะ เพราะนินจาทั้ง2คนที่มาช่วยภาระกิจครั้งนี้ ท่านฟูโกะพามาเอง ฝีมือต้องอยู่ในระดับเยี่ยมแน่นอนครับ" ซาคุกล่าวตอบผู้เฒ่าด้วยน้ำเสียงดีใจ

"ได้ยินแบบนี้ก็ดี เจ้าก็ไปร่วมงานแต่งตั้งเงาสวรรค์รุ่นที่3กับข้าได้ แบบหายห่วงแล้วสินะ" ท่านชิซุยยังคงถามย้ำไปอีกครั้ง นินจาหนุ่มผู้เป็นอาจารย์ประจำกลุ่มก็ได้แต่พยักหน้าแล้วยิ้มให้เหล่าลูกทีม พร้อมบอกพวกเด็กๆต่อว่า

"พยายามทำภาระกิจให้ดีที่สุดนะ แล้วครูจะคอยดูผลงานของพวกเธอ" เมื่อเขาพูดจบ ก็ได้เวลาที่จะต้องออกเดินทางเช่นกัน ท่านชุซุยและซาคุจึงหายตัวจากไปเพื่อเตรียมการเดินทางไปยังแคว้นท้องฟ้า ก่อนที่ท่านฟูโกะจะไปยังห้องประชุมก็ได้บอกให้เด็กๆระวังตัวในภาระกิจครั้งนี้ด้วยเช่นกัน และก็หายวับไปทันทีด้วยการเคลื่อนที่แบบนินจา



"ยินดีต้อนรับนะเรา อามะโทบิระ โทโมอากิ เป็นหัวหน้าทีมมังกร ต่อจากนี้ไปก็ขอความกรุณาด้วยครับ" โทโมอากิเริ่มบทสนทนาต่อเพื่อนใหม่ทั้ง2คน ตามติดมาด้วยชุน

"ผมชุนครับ จากตระกูลเดียวกับท่านโทโมอากิ ข้างๆท่านโทโมอากิที่เป็นเด็กผู้ชายคุโระคะเซะ เทรุ ผู้หญิงคนที่ทำผมจุก2ข้างคือ ฟูมะ เทนอิทซึ ส่วนคนสุดท้ายที่รวบผมมัดไปข้างหลังนั้นชื่อ ฮิกาชิยามะ ฮารุ นี่คือทั้งหมดในสมาชิกทีมมังกรครับ" ชุนกล่าวแจกแจงเพื่อนๆในทีมพร้อมแนะนำตัวเองตามหลังโทโมอากิ

"อย่างที่ผมได้ยินมาเลยที่เค้าบอกว่าตระกูลอามะโทบิระ ถึงจะเป็นตระกูลที่ใหญ่ แต่ไม่มีใครถือตัวเลยจริงๆ" เด็กหนุ่มคนตัวสูงเริ่มกล่าวก่อน แล้วพูดแนะนำตัวต่อว่า "ผมคะเซะนามิ ไคโตะ เป็นตระกูลที่ใช้คาถาน้ำเก่งที่สุดในแคว้นลม และยังเชี่ยวชาญพื้นที่ระหว่างแคว้นภูผากับแคว้นทะเลครับ ขอฝากตัวด้วย" เพื่อนใหม่ตัวโย่งของสมาชิกทีมมังกรกล่าวแนะนำตัวเอง

"นั่นสิครับเป็นกันเองมากๆ ทีแรกจะได้มาทำงานกับตระกูลใหญ่ๆก็กลัววางตัวไม่ถูกเหมือนกัน" เด็กชายผมสีทองผู้มีตาดุจตาเหยี่ยวพูดขึ้น

"แหม พูดยังกับตระกูลใหญ่นี่ต้องถือตัวทุกคนอย่างนั้นแหละ" เท็นอิทซึพูดขึ้นในลักษณะแซว เด็กชายตัวเหยี่ยวก็ทำท่าอายๆทำท่าเกาหัว ก่อนที่เทนอิทซึจะเริ่มอีกคำถาม
"แล้วนายละชื่ออะไรหรอ?" เมื่อได้ยินคำถามเด็กหนุ่มก็อายหน้าแดงเลยพร้อมก้มหน้า

"ขอโทษที่ลืมแนะนำตัวครับ ผมทะกะโอ ริคิยะ ผมมีความสามารถเรื่องการมองเห็นในระยะไกลครับ ซึ่งจะทำให้ทีมเราไม่ต้องเสี่ยงในที่ๆมีศัตรูโดยไม่จำเป็นครับ" เด็กชายตาเหยี่ยวแนะนำตัวเอง

และทั้งหมดก็เริ่มออกเดินทางเพื่อเริ่มภาระกิจที่ได้รับมอบหมายมา

วันอังคารที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2553

นินจามหาเวทย์ ตอนที่2

แสงอรุณเบิกฟ้าในวันใหม่ ส่องรอดเข้ามายังหน้าต่างห้องนอน แสงตะวันต้องตัวเด็กชายจนทำให้เขาค่อยเบิกตาดูเช้าวันใหม่อีกครั้ง แต่ดูเหมือนความเศร้านั้นไม่ได้ไปจากเขาไปไหนเลย โทโมอากิมองไปรอบๆห้อง เขานอนที่เขานอนอยู่ เขาได้แต่คิดว่าเขาอยู่ไหนกันนี่แต่ที่เขารู้ก็คือ เขาไม่ได้นอนที่ห้องนอนตัวเองแน่ๆ

ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูเบาๆ ก่อนจะมาคนเปิดเข้ามาไม่ใช่ใครที่ไหน ชุน นั่นเอง งั้นก็แสดงว่าเราอยู่ที่บ้านท่านยายฟูโกะโทโมอากิพลางนอนคิด พร้อมกับปิดเปลือกตาลงเช่นเดิม สักครู่ชุนก็เดินมาปลุกโทโมอากิยังเตียง

"ท่านโทโมอากิครับ ได้เวลาตื่นแล้วครับ" เขาปลุกโทโมอากิด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่ม และเขย่าตัวเบาๆให้โทโมอากิรู้สึกตัว

โทโมอากิก็ค่อยลืมตาขึ้นอีกครั้ง
"เราตื่นนานแล้ว" โทโมอากิผลิปากบอก ก่อนที่จะยิ้มเจื่อนๆปนความเศร้าให้ชุน

"ท่านโทโมอากิ อย่าได้เศร้าไปเลยนะครับ ทางตระกูลหลักในตอนนี้ก็เหลือคนน้อยลงไปอีก เกิดท่านมาป่วยไม่สบายไปอีกจะทำให้ ตระกูลสาขาอย่างพวกผม ทุกข์ร้อนใจไปด้วยนะครับ" ชุนพูดด้วยความเป็นห่วงโทโมอากิ

"เข้าใจแล้วขอโทษที่ทำให้นายเป็นห่วง" โทโมอากิฝืนยิ้มออกไปอีกครั้งให้ชุนสบายใจ

"ท่านยายฟูโกะ สั่งให้ผมมาดูแลท่านอย่างใกล้ชิดครับ มีอะไรเรียกใช้ผมได้ตลอดเวลานะครับ" ชุนก้มหัวแสดงความเคารพให้โทโมอากิ

"นายไม่ต้องอยู่กับเราหรอก เราไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น เราแค่ขออยู่คนเดียวอย่างเงียบๆสักพัก" โทโมอากิพูดบอกชุนพร้อมกลับกล่าวเสริมมาว่า "เมื่อเราพร้อมแล้วเราจะลงไปเองฝากบอกท่านยายให้ด้วย"

"ได้ครับ" ชุนตบปากรับคำก่อนที่จะก้มหน้า พร้อมเดินออกไปจากห้อง แล้วค่อยๆปิดประตูห้องตามคำสั่งโทโมอากิ ด้วยความเป็นห่วงนิดๆ

โทโมอากิก็ได้แต่เศร้าที่เสียตาไป แต่เขาก็กลับมาคิดในสิ่งที่ตาเขาพร่ำสอนเกี่ยวกับเรื่อง การรักในหมุ่บ้านและการทำเพื่อหมู่บ้าน และคำสั่งเสียอีกอย่างก็คือ การมุ่งไปสู่เส้นทางเงาแห่งพายุ รุ่นต่อไป เมื่อหวนคิดถึงวันคืนที่ดีกับท่านตาแล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะ หลั่งน้ำตาอีกครั้ง และนั่งงอตัวก้มหน้าลงไปหาเข่าที่ชันขึ้นรับใบหน้า เขาแอบร้องอย่างเงียบๆ ณ มุมห้อง จนเวลาผ่านไปเกือบครึ่งค่อนวัน

สภาพทั้งหมู่บ้านวายุตอนนี้เป็นไปด้วยความเศร้าที่สุดแสนจะบรรยาย ทั้งสถานที่สำคัญๆต่างๆก็ปิดทำการ ตลอกจนการปฎิบัติภารกิจต่างๆของนินจาภายในหมู่บ้านก็งดเช่นกัน แต่สิ่งนึงที่จะเลี่ยงไม่ได้คือการประชุมของนินจาในหมู่บ้านเพื่อเลือก เงาแห่งพายุรุ่นที่5 ซึ่งหมายถึงความมั่นคงของแคว้นและขวัญกำลังใจของนินจาในหมู่บ้าน



ณ ประสาท เทพวายุ

ซึ่งเป็นสถานที่ๆ ผู้นำแคว้นภูผาอาศัยอยู่ ได้เปิดให้มีการประชุมหมู่บ้านเพื่อที่จะเลือก เงาแห่งพายุคนใหม่ มาปฎิบัติหน้าที่แทนรุ่นที่4 ที่เสียชีวิตไปในสงครามที่แคว้นท้องฟ้า ในการประชุมครั้งนี้ประกอบด้วย ผู้เฒ่าอาวุโสทั้ง4คนที่เป็นที่ปรึกษาหมู่บ้าน เจ้าอาวาสและพระอาวุโส2คนจากวัดวายุเทพ นินจาระดับสูงอีก5คนและเจ้าหน้าที่บริหารแคว้น2คน รวมเป็น14คนที่จะเป็นผู้เลือก เงาแห่งวายุคนต่อไปและดำเนินการให้ ผู้นำแคว้นภูผา ประทับตารับรองว่าได้รับการรับเลือกอย่างเป็นทางการแล้วนั่นเอง

ผู้ที่เหมาะสมจะเป็นรุ่นที่5 ดูเหมือนจะมีอยู่4คน จากที่ฟังทั้งที่ประชุมเกริ่นๆมา อันได้แก่
อามะโทบิระ ฮิเดะอากิ(ผู้เป็นอาของโทโมอากิ และเป็นหลานชายและลูกศิษย์ท่านรุ่นที่4จากตระกูลหลัก ผู้มีความสามารถในการใช้มิติเวลา ฉายาวายุมิติ)
คนที่สองคือ ฮิกาชิยามะ รัน(ผู้เป็นคุโนะอิจิฝีมือเยี่ยมในการแพทย์ และเป็นลูกศิษย์ท่านรุ่นที่4ด้วยเช่น ฉายาเจ้าหญิงสีโลหิตหรือเจ้าหญิงเลือด)
คนที่สามคือ โทริวะ ทซึบาซะ(นินจาฝีมืเยื่ยมอีกคนในการประสานอินโจมตี ถึงแม้จะไม่ได้เป็นศิษย์รุ่นที่4 แต่ก็ทำงานให้กับหน่วยลับมาเป็นเวลานาน)
คนสุดท้ายคือ โนวากิ ซาคุ(นินจาหนุ่มไฟแรง ที่ผ่านภาระกิจระดับเอส มาแล้วรับครั้งไม่ถ้วนด้วยฉายา จ้าววายุลูกศิษย์ของ ฮิเดะอากิอีกที)

การลงคะแนนเสียงเลือกเงาแห่งวายุนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตัวเลือกต่างก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ต่างกันไปเช่น ฮิเดอากิเองก็อยุูไม่เป็นที่ชอบพเนจรไปทั่ว ส่วนรันนี่ถึงจะเป็นนินแพทย์แต่ก็เลือดร้อนมักขาดความรอบครอบถึงกับมีฉายาว่า"เจ้าหญิงเลือด" ส่วนซาคุเองก็มีอายุน้อยเกินกว่าที่จะมาเป็นผู้นำหมู่บ้านในตอนนี้ แต่ที่หนักที่สุดก็คือทซึบาซะ เพราะมาจากหน่วยลับนั่นเอง ความเครียดเกิดขึ้นที่บอร์ดบริหารทันที แต่ก็สรุปกันไม่ได้ว่าจะเอาใคร จนมาถึงตอนท้ายการประชุม ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะให้ใครเป็นเงาแห่งพายุรุ่นที่5หรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าฮิเดอากินั้นจะดูมีภาษีมากกว่าผู้อื่น แต่อันเนื่องจากเขาอยู่ไม่เป็นที่ จึงต้องใช้นินจาจากหน่วยลับช่วยค้นหาตัวเขาอีกที เพราะไม่รู้ว่าเขาจะยอมรับการเป็นเงาแห่งพายุรุ่นที่5หรือไม่ ตัวฮิเดอากิเองก็รักอิสระใช่น้อย กว่าตัวเขาจะออกจากตระกูลหลักไปท่องเที่ยวได้ก็ยากเย็นมากอยู่พออยู่แล้ว(เนื่องจากกันความลับของโซ่ซวรรค์ไม่ให้คนนอกรู้ ตระกูลหลักจึงไม่สามารถที่จะออกไปเที่ยวตามใจชอบได้) แต่ตอนนี้เขานั้นทำได้แล้วเขาจะกลับมาสู่แคว้นวายุจริงๆหรือ นั่นเป็นคำถามที่ทุกคนในที่ประชุมนี้คิดกัน ในที่สุดการประชุมก็สิ้นสุดลงด้วยมติที่ว่า ถ้าฮิเดอากิไม่รับข้อเสนอการเป็นเงาแห่งพายุรุ่นที่5 รันหรือซาคุจะได้รับการพิจารณาแทนโดยปริยาย ส่วนเรื่องการค้นหาตัวฮิเดอากินั้นให้แบ่งกำลังในหมู่บ้านออกค้นหา พร้อมด้วยนินจาลับส่วนนึง โดยเป้าหมายของภาระกิจครั้งนี้คือการนำตัวท่านฮิเดอากิ กลับมาสู่หมู่บ้านให้ได้ ภารกิจในครั้งนี้จะต้องปฎิบัติทันทีหลังจากที่พิธีไว้อาลัย ท่านรุ่นที่4เสร็จสิ้นโดยขณะที่รอเงาแห่งพายุรุ่นที่5มารับตัวแหน่งนั้น ผู้เฒ่าทั้ง4ผู้เป็นที่ปรึกษาหมู่บ้านจะเป็นผู้ดูแลหมู่บ้านรอ


ณ คฤหาสถ์ตระกูลฮิกาชิยามะ

"ชุน" เสียงท่านฟูโกะเรียกหาหลานชาย

"ครับท่านยาย มีเรื่องอะไรให้ผมรับใช้หรือป่าวครับ?" เด็กหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงมีน้ำใจ

"โทโมอากิล่ะ? ไปไหนเสีย" หญิงชราถามเด็กชายถึงหลานชายอีกคนด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

"ท่านโทโมอากิ ยังไม่ลงมาจากห้องนั้นเลยครับตั้งแต่เช้า ผมเอาข้าวขึ้นไปให้ก็ไม่ได้แตะเลยแม้แต่น้อย ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรด้วย เพราะท่านเอาแต่ร้องให้อยู่ที่เดิมตลอดเวลาครับ" ชุนรายงานต่อยายด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงไม่แพ้กัน

"เอาล่ะเจ้าไปพักได้ เดี๋ยวยายจักการต่อเอง" หญิงชราสั่งหลานอีกคน ก่อนจะเดินไปยังห้องเก็บของเพื่อหาอะไรซักอย่าง ในที่สุดนางก็เจอมันคือตำราเก่าๆเล่มนึง จากนั้นนางก็ถือตำราเล่มนั้นขึ้นไปยังห้องที่โทโมอากิพักอยู่ นางเดินเข้าไปในห้องพร้อมกับเห็นหลานตัวเองขดตัวงออยู่มุมห้องร้องให้อยู่ นางจึงค่อยๆเดินไปข้างๆเด็กหนุ่ม ก่อนที่จะค่อยๆลูบศีรษะและปลอบโยนเด็กหนุ่ม แล้วนางก็เริ่มเล่าถึงเรื่องต่างๆให้โทโมอากิฟังซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับท่านตาผู้ซึ่งเสียชีวิตไปว่าท่านตาเป็นนินจาที่เก่งและมีคุณธรรมเพียงใด ถึงเขาจะเข้าใจแต่มันก็ยากที่รับได้และยากยอมทำใจรับมัน

ท่านยายยังเล่าอีกว่า "ตระกูลอามะโทบิระของเรา เป็นตระกูลนินจาที่ยิ่งใหญ่ในแคว้นแห่งภูผานี้ ในตระกูลมีผู้ขึ้นเป็นเงาแห่งพายุถึง2รุ่น คือรุ่นที่1และรุ่นที่4 นั่นหมายความว่าตระกูลเราจะต้องรับผิดชอบแคว้นภูผาและหมู่บ้านนินจาวายุแห่งนี้ แม้ต้องแลกด้วยชีวิตเราก็ตาม" ท่านฟูโกะเล่าพร้อมทั้งหลังน้ำตาพลางเอามือไปลูบหัวหลานชายไป

"ผมรู้ครับว่าตระกูลเราต้องทำเพื่อแคว้น แต่ท่านตาไม่ได้ตายเพื่อแคว้นเราเลยนี่ครับ" เด็กหนุ่มร้องให้เสียงสะอื้นพร้อมกับถามยายตัวเองกลับด้วยความเสียใจและไม่เข้าใจ

"โทโมอากิ เจ้าน่ะเข้าใจผิดแล้ว สงครามครั้งนี้ ท่านตาของเจ้าเอาศักดิ์ศรีของแคว้นภูเผาเราเดิมพันเชียวนะ ไม่ใช่แค่ตาเจ้าแต่เงาของอีก3หมู่บ้านด้วยเช่นกัน พวกเขาทุกคนล้วนคิดถึงศักดิ์ศรีหมู่บ้านตน พวกเขาจึงไม่ยอมเสียแคว้นท้องฟ้าให้อีกฝ่ายถึงว่าต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม" ท่านฟูโกะอธิบายให้โทโมอากิฟังโดยละเอียด เขาเองเมื่อได้ฟังเช่นนั้น ก็รู้สึกว่าเข้าใจอะไรมากขึ้น แต่ก็อดกลั้นน้ำตาไม่ได้

"ผมสัญญานะครับ ว่าผมจะต้องยิ่งใหญ่ไม่แพ้ท่านตา" เด็กหนุ่มให้คำสัญญาต่อยายทั้งน้ำตาแห่งความเศร้าโศรกที่ไหลออกมาอย่างหยุดไม่ได้

"นี่เคยเป็นของแม่เจ้า ข้าว่าจะมอบให้เจ้าเมื่อ เจ้าได้เป็นโจนิน แต่ข้าว่ามันอาจช้าไป นี่อาจช่วยให้เจ้าดีขึ้น" ท่านฟูโกะพูดจบก็ยื่นตำราเก่าๆที่ค้นมาเมื่อสักครู่ให้เด็กหนุ่ม เขายื่นมือออกไปรับขณะที่น้ำตายังคลอเบ้าอยู่

"มันคือตำราอะไรหรือคับท่านยาย" เขาปาดน้ำตาพร้อมทั้งถามหญิงชรากลับไป

"ตำราประสานอินเทพวายุ ของแม่เจ้าไง" ท่านฟูโกะตอบไปอย่างไม่คิดจะปิดบัง

"ตำ...รา...ของท่านแม่งั้นหรือ?" เขาพรึมพรำอยู่คนเดียว พร้อมคิดในใจว่า ถึงท่านตาจะไม่อยุ่แต่ท่านแม่ก็มาอยู่เคียงข้างเขาแทน มันน่าพอทดแทนกันได้

"จงรักษามันไว้เท่าชีวิตนะ เพราะมันจะทำให้ความสามารถด้านวิชานินจาเจ้าพัฒนาไปหน้าอย่างรวดเร็วแน่นอน เมื่อถึงตอนนนั้นเราค่อยไปจัดการกับเจ้าพวกแคว้นหุบเหวก็ยังไม่สาย" หญิงชราพูดด้วยความเจ็บใจ ก่อนทีจะค่อยๆเดินจากโทโมอิกิไปอย่างช้าๆ จนถึงหน้าประตูก่อนนางออกจากห้องนางก็หันมาทางเด็กชายพร้อมบอกว่า
"จงเป็นสายลม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเจ้าก็คือสายลม เพราะไม่ว่ายังไงสายลมจะยังพัดตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นเวลาไหน เมื่อไหร่ หรือแม้แต่ที่ไหน" ก่อนที่จะยิ้มแล้วค่อยๆก้าวเดินออกไปจากห้องของเด็กหนุ่ม

"ใช่ ท่านยายพูดถูกเราเป็นสายลมจะมาอาลัยอาวรณ์กับสิ่งที่ผ่านมาแล้วไม่ได้ แต่เราสามารถสร้างอนาคตนี้ได้ด้วยมือของเรา"
ก่อนที่เขาจะเลิกร้อง แล้วลงไปหาอะไรกินที่ห้องครัวเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนคนอื่นๆที่เห็นเขาในขณะนี้นั้นตกใจไปตามๆกัน กับความแข็งแกร่งด้านจิตใจของเด็กหนุ่มคนนี้

"เป็นเหมือนเดิมแล้วสินะครับท่านโทโมอากิ" ชุนรีบเข้ามาดูอาการพร้อมถามด้วยความเป็นห่วง

"เราไม่เป็นอะไรแล้ว นายไม่ต้องเป็นห่วงนะ และขอบใจนายมากที่คอยเป็นห่วงเรา" โทโมอากิพูดพร้อมส่งยิ้มหวานให้กับชุน จนชุนหน้าแดงไปเลยทีเดียว

ในหมู่บ้านลับนินจาวายุตอนนี้ ถึงจะเต็มไปด้วยความโศรกเศร้า แต่ความแข็งแกร็งของนินจาให้บ้านก็ไม่ได้ลดน้อยลง ถึงจะเสียกองกำลังนินจาไปมากในสงครามที่แคว้นท้องฟ้าที่พึ่งจะผ่านมา แต่กองกำลังรักษาหมู่บ้านก็ยังคงมีอีกมากและนินจาที่ทำภาระกิจอื่นๆ(ที่ไม่ได้ไปรบก็เยอะพอสมควร) ทำให้สภาพในหมู่บ้านวายุไม่ย่ำแย่นักเมื่อเทียบกับหมู่บ้านนินจาแสงแห่งแคว้นท้องฟ้า ซึ่งเสียทั้งนินจาระดับสูงและระดับกลางไปเยอะนอกจากนั้นหมู่บ้านยังโดนทำลายอีกด้วย ทำให้ขวัญเสียมากกว่าแคว้นอื่นๆ ภายในหมู่วายุตอนนี้จะวุ่นวายเรื่องการเตรียมกำลังชุดใหม่และก็งานศพท่านรุ่นที่4ที่จะมาถึงในเร็ววันนี้ด้วย

6วันต่อมา
ณ ที่ทำการหมู่บ้าน หอสายลม(ที่ทำงานเงาแห่งพายุ)

เหล่าบรรดานินจาทั้งหมู่บ้านได้มารวมตัวกันที่ลานหน้าหอสายลม หน้าสัญลักษณ์แห่งสายลมที่ตระง่านอยู่เบื้องหน้า แน่นอนว่าด้านบนหอสายลมที่ดาดฟ้า จะเป็นพิธีวางดอกไม้ส่งท่านรุ่นที่4ก่อนจะนำไปยังวัดเทพสายลมเพื่อปฎิบัติตามพิธีศพในทางศาสนา นินจาทั้งหมู่บ้านต้องไว้อาลัย3นาที(การภาวนาเงียบ) เพื่อลำลึกถึงคุณงามความดีของผู้ที่เสียชีวิตไป ไม่ใช่แค่รุ่นที่4 ตลอดจนนินจาที่เสียชีวิตในภารกิจที่แคว้นท้องฟ้าด้วยทุกคน

เม็ดฝนจากท้องฟ้าก็ตกลงมาพรำๆ ประดุจฟ้าเองก็เศร้าแล้วร้องให้ออกมาเป็นเม็ดฝน ยิ่งทำเอาบรรยาในหมู่บ้านสลดเศร้ามากกว่าเดิม เมื่อ4ผู้เฒ่าวางดอกไม้ส่งท่านรุ่นที่4เสร็จก็ถึงคิวของโทโมอากิ ซึ่งเป็นหลานชายสายตรงที่ท่านรุ่น4รักมากที่สุดมาวางดอกไม้เพื่อส่งท่านรุ่น4 เขาว่าจะไม่ร้องให้ต่อหน้าคนอื่นแล้วแต่ก็อดไม่ได้ที่จะปล่อยน้ำตาออกมาท่ามกลางสายฝน เมื่อเขาวางดอกไม้เสร็จก็เดินออกไปอย่างสงบเงียบพร้อมทั้งน้ำตาจนคนอื่นที่เห็นภาพ โทโมอากิพยายามกั้นน้ำตานั้น ต้องร้องให้ตามเขาเลยทีเดียว เมื่องานวางดอกไม้ส่งท่านรุ่นที่4เสร็จ ฝนก็ยยังตกลงมาต่อ ราวกับว่าฟ้าเองก็ร่วมเสียใจด้วย

ศพท่านรุ่น4 ถูกแห่ไปยังวัดเทพสายลมในเวลาต่อมา สองข้างทางที่แห่ศพไปนั้นเต็มไปด้วยประชาชนของหมู่บ้านวายุ บ้างก็มาจากหมู่บ้านอื่นๆในแคว้นภูผาเพื่อร่วมไว้อาลัย โยนดอกไม้ส่งท่านรุ่น4ตลอดทางถึงแม้ว่าฝนจะตกลงมาทั้งวันก็ตาม

ในที่สุดวันแห่งความทุกข์ของหมู่บ้านแห่งนี้ก็ลดจางลงไปบ้าง

ก่อนที่ภาระกิจการตามหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรุ่นที่5จะเริ่ม

นินจามหาเวทย์

นินจามหาเวทย์นั้นมีความใกล้เคียงเรื่องนารุโตะพอสมควร(เรียกว่า นารุโตะโคลเวอร์ก็ได้ไม่ว่ากัน) แต่จะไม่เหมือนนารุโตะแน่นอน เพราะไม่มีเรื่องเกี่ยวกับสัตว์หางและร่างผนึกสัตว์หาง แต่จะเน้นไปที่ความรักและเรื่องราวสงครามนินจาเป็นหลัก โดยที่ตัวเอกของเรื่องจะอยู่ที่หมู่บ้านวายุในแคว้นภูผา

เรื่องนี้มันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนินจา อาจทำให้ดูคล้ายเรื่องนารุโตะบ้าง แต่ผู้เขียนยืนยันว่าต่างจากเรื่องนารุโตะอย่างแน่นอน
แต่อาจมีโคลงเรื่องและการผูกเรื่องบางตอนอาจมีบางส่วนไปคล้าย เช่น การตั้งชื่อแคว้นมาแนวเดียว และการใช้วิชานินจาบางอย่างอาจเหมือนกัน ส่วนตัวละครแต่งใหม่หมด รวมถึงขีดความสามารถพิเศษทางด้านสายเลือดใหม่ๆที่คิดขึ้นมาเองด้วย



แนว- แฟนตาซี
ประเภท- เกย์
เรท- ปกติ/อีโรติค(บางตอน)

ยังไงก็ขอให้สนุกกับเรื่องนี้อีกเรื่องนะครับ



ตอนที่1 การสูญเสีย

ตอนที่2 การประชุมเลือกเงาแห่งพายุ
ตอนที่3 ภารกิจออกตามหา
ตอนที่4 สู่ชายแดน ทะเลเลือด
ตอนที่5
เหล่าศัตรูอันน่ากลัวหมู่บ้านคลื่น
ตอนที่6 ปะทะนินจาคลื่น "ผู้ใช้ปลาคราฟ"
ตอนที่7 ว่าที่เงาแห่งพายุรุ่นที่5ปรากฎตัว
ตอนที่8 แผนเข้าตีแคว้นภูผา


นินจามหาเวทย์ ตอนที่1

ในโลกนินจา ซึ่งมีแคว้นต่างๆใหญ่น้อยมากมายได้แ่ก่งแย่งชิงดี เพื่อที่จะได้เป็นแคว้นที่ใหญ่และทรงอำนาจที่สุดในโลกนินจาแห่งนี้ ต่อมาสงครามระหว่างแคว้นก็เริ่มกลายเป็นสงครามนินจา โดยที่สงครามนินจานั้นเกิดขึ้นมาแล้วถึง2ครั้ง ในครั้งแรกเกิดขึ้นในสมัยที่ทุกแคว้นยังไม่ได้รวบรวมหมู่ บ้านซึ่งเป็นสงครามที่ทำให้เกิดหมู่บ้านลับแห่งนินจาตามมา ในสงครามนินจาครั้งที่2นั้นเป็นสงครามระหว่างแคว้นเนื่องด้วยแต่ละแคว้นมีนิ นจาสะสมไว้เพื่อสู้รบกันเอง จากที่เคยเป็นสงครามรบพุ่งก็กลายมาเป็นสงครามเย็น ซึ่งในแต่ละแคว้นนั้นได้เริ่มมีหมู่บ้านลับนินจา เพื่อสะสมกองกำลังนินจาของหมู่บ้านลับนินจาในแต่ละแคว้น จนเป็นที่มาแห่งสงครามเย็นระหว่างแคว้นนั่นเอง หลังสงครามครั้งที่2นี้เองทำให้เกิดแคว้นใหญ่ๆขึ้นมาถึง7แคว้น อันได้แก่ แคว้นท้องฟ้า แคว้นทุ่งร้าง แคว้นทุ่งหญ้า แคว้นป่า แคว้นภูผา แคว้นหุบเหว และแคว้นทะเล นอกจากนั้นยังมีแคว้นเล็กๆอีกหลายแคว้นที่ยังอยู่รอดมาได้เช่น แคว้นเมฆ แคว้นแม่น้ำ แคว้นเหล็ก แคว้นหิมะเป็นต้น ซึ่งแคว้นต่างๆนี้เองที่เป็นชนวนการสะสมกองกำลังนินจา และเป็นสาเหตุของสงครามเย็นในยุคปัจจุบัน


โลกนินจาในปัจจุบันนี้มีพันธมิตรหมู่บ้านนินจาที่ประกอบด้วย หมู่บ้านแสง(แคว้นท้องฟ้า) หมู่บ้านภูเขาเพลิง(แคว้นทุ่งร้าง) หมู่บ้านสายฟ้าฟาด(แคว้นทุ่งหญ้า) และหมู่บ้านพายุ(แคว้นภูผา) เป็น4หมู่บ้านใหญ่ในพันธมิตรนินจา ซึ่งนับว่าเป็นแกนความสงบของโลกนินจาเลยก็ว่าได้ ส่วนหมู่บ้านความมืด(แคว้นหุบเหว)นั้นเป็นหมู่บ้านลับนินจาที่ลึกลับที่สุด และคอยเป็นปรปักษ์ต่อแคว้นอื่นๆอยู่เรื่อยๆ เนื่องจากต้องการเป็นใหญ่และคุมอำนาจในโลกนินจาเพียงหนึ่งเีดียว


พันธมิตร4แคว้นใหญ่นั้น บางทีก็ระแวงกันเองไม่ค่อยจะสามัคคีกันเท่าที่ควร ทำให้ฝ่ายหมู่บ้านความมืดเข้าแทรกแซงอยู่บ่อยครั้ง เพื่อทำให้เป็นเหตุให้ผิดใจกันเองเสมอ แล้วช่วงโอกาสที่ฝ่ายหมู่บ้านความมืดก็มาถึง เมื่อการประชุมเงาผู้นำหมู่บ้านแห่งปีมาถึง ในการประชุมเงาครั้งนั้นเองที่ทำให้เกิดสงครามระหว่างแคว้นต่อกันอีกครั้ง เมื่อเงาแห่งสวรรค์ของหมู่บ้านสวรรค์รุ่นที่2ถุกลอบสังหาร พร้อมกับเงาแห่งทรายรุ่นที่4ผู้มาเป็นพยานในการประชุม ทำให้สถานะการณ์ทั้ง4แคว้นใหญ่ตึงเครียดมากกว่าเดิม ไม่เพียงแค่นั้นแคว้นเล็กๆต่างๆก็ตรึงเครียดไปตามๆกัน 4แคว้นใหญ่ก็เริ่มระแวงกันเอง จนทำให้การประชุมในครั้งนั้นต้องยกเลิกในทันที แล้วไม่กี่อึดใจเมื่อประกาศล้มเลิกงานประชุมเงา หมู่บ้านลับนินจาแห่งแสงก็ถูกเข้าโจมตีจากหลายทาง ทั้งจากทางแคว้นทะเล แคว้นดิน แคว้นเหล็ก และแคว้นหุบเหว จนทำให้หมู่บ้านแสงระส่ำระสายพ่ายอย่างไม่เป็นท่า จึงต้องขอความช่วยเหลือจาก3แคว้นใหญ่ที่เหลือ


เงาอีก3แคว้นนั้นยังอยู่ในแคว้นท้องฟ้า จึงให้ความช่วยเหลือแคว้นท้องฟ้าอย่างเต็มที่โดยนำกองกำลังนินจาจากอีก3แคว้นเข้ามาช่วยต้านในศึกครั้งนี้ ซึ่งกองกำลังนั้นประกอบด้วย เงาแห่งเปลวอัคคีรุ่นที่3 เงาแห่งอัศนีรุ่นที่4 และเงาแห่งพายุรุ่นที่4 ทั้ง3เงาต้องนำกำลังอีก3แคว้นใหญ่เข้ามาช่วยแคว้นท้องฟ้า คนนินจาที่โจมตีถอยร่นออกจากแคว้นท้องฟ้า การต่อสู้ครั้งนั้นเป็นไปอย่างดุเดือดมาก ถึงแม้ว่าจะรักษาแคว้นท้องฟ้าไว้ได้ แต่ฝ่ายพัธมิตรเองก็เสียเงาแห่งสวรรค์รุ่นที่2ไปแล้วนั้น และยังเสียเงาอัศนีรุ่นที่4กับเสียเงาพายุรุ่นที่4ไปพร้อมๆกัน เงาแห่งเปลวอัคคีที่รอดมาได้เพียงหนึ่งเดียวนั้นก็บาดเจ็บสาหัสทีเดียว ทำให้พันธมิตรนินจาตอนนี้สั่นคอน ไปตามๆกัน


เมื่อสถานการณ์เริ่มสงบลง กองกำลังนินจาแคว้นต่างๆก็เริ่มทยอยเดินทางกลับแคว้นของตน ด้วยความโศรกเศร้าเสียใจ

ณ ห้องที่ปรึกษาหมู่บ้านวายุแคว้นภูผา

"ขอรายงานครับ" นินจาผู้นึงในหน่วยลับแห่งหมู่บ้านวายุปรากฎตัวขึ้นพร้อมกับคุกเข่าทำความเคารพต่อหน้า4ที่ปรึกษาผู้เฒ่าประจำหมู่

"ว่ามา" ผู้เฒ่าผู้นึงคือท่านคุโระคะเซะ ชิเงะโคคุ ผู้เป็นหัวหน้าหน่วยลับ รีบสั่งให้นินจาลับผู้นั้นรายงานสถานการณ์

"ตอนนี้กองกำลังได้อยู่ในระหว่างเดินทางกลับหมู่บ้านครับ พึ่งเข้าชายแดนแคว้นภูผาของเรา ทางเราเสียท่านรุ่นที่4ไปครับ ส่วนกองกำลังที่เราส่งไปช่วยนั้นรอดกลับมาไม่ถึงครึ่งครับ" นินจาลับผู้นั้นรายงานพวกผู้เฒ่าด้วยความหดหู่ใจเป็นอย่างยิ่ง

ตึ้งงงงงงงงงงงง เสียงตบโต๊ะดังขึ้น ด้วยอารมณ์โกรธ "พวกหุบเหวมันทำเกินไปแล้วแบบนี้เท่ากับมันประกาศสงครามนินจากับเรา" ผู้เฒ่าจากตระกูลฟูมะ ท่านฮิรุเซน กล่าวขึ้นพร้อมกับสีหน้าโกรธแค้นนินจาอีกหมู่บ้านเป็นอย่างมาก

ก่อนที่ท่านฮิกาชิยามะ ฟูโกะ คุโนะอิจิหนึ่งเดียวใน4ผู้เฒ่าจะกล่าวขึ้นว่า "ท่านฟูมะ ฮิรุเซนโปรดสงบสติอารมณ์ของท่านลงก่อน เพราะในตอนนี้เราต้องคำนึงถึงความมั่นคงของหมู่บ้านวายุ และแคว้นภูผาของเราเป็นหลัก ซึ่งแน่นอนว่าเราขาดเงาพายุไม่ได้" นางพูดอย่างใช้สติไตร่ตรอง แต่ก็ยังมีหยาดน้ำตาเล็กๆไหลออกมาพอสังเกตุได้เนื่องด้วยคนที่เสียชีวิตไปคือ รุ่นที่4หรือพี่ชายแท้ๆของนางเอง แต่นางก็ยังคงคุมสติตัวเองอย่างรอบคอบ และคุมอาการได้อย่างดีเยี่ยม

"เรื่องนี้ข้าเห็นด้วยกับฟูโกะ" ท่านฮิกาชิยามะ ชิซุยผู้เป็นสามีท่านฟูโกะกล่าวสนับสนุนเสริม

"งั้นสิ่งที่เราควรทำตอนนี้คือเรียกประชุมนินจาเพื่อคัดสรรหานินจาที่จะมาเป็นเงาพายุรุ่นที่5กัน" ท่านคุโระคะเซะ เพิ่มเติมข้อควรจัดการต่ออีก3ผู้เฒ่า

"งั้นข้าก็ไม่คัดค้านอะไรใรเมื่อท่านทั้ง3เห็นเสียงเดียวกันแบบนี้" ท่านฟูมะกล่าว

"เอาละตกลงว่า เราจะประชุมเลือกเงาพายุรุ่นที่5เมื่อ กองกำลังที่ส่งไปช่วยแคว้นท้องฟ้ากลับมาถึงหมู่บ้าน และรีบส่งข่าวให้นินจาหมู่บ้านเราที่ทำภารกิจต่างๆทั้งหมดกลับสู่หมู่บ้านเพื่อเข้าร่วมงานไว้อาลัยท่านรุ่นที่4 และนินจาที่เสียชีวิตไปในสงครามครั้งนี้" ท่านฟูโกะสั่งนินจาลับคนที่มารายงานสถานการณ์ให้ไปส่งคำสั่งต่อ พร้อมกับให้หน่วยลับส่วนนึงออกไปคุ้มกันนินจาที่จะกลับมาด้วย แล้วสั่งเพิ่มอีกว่า
"เรียกโทโมอากิเข้ามาพบข้าด้วย บอกผ่านทางโนวากิ ซาคุซึ่งเป็นอาจารย์ประจำกลุ่มนะ"

พอสั่งการต่างๆเสร็จ นินจาลับคนนั้นก็รีบหายตัวออกไปทันที 4ผู้เฒ่าจึงเริ่มแสดงสีหน้ากังวลกันมากกว่าเมื่อครู่เสียอีก เพราะพวกเขาเป็นนินจาที่มากด้วยประสบการณ์ และยังเป็นถึงที่ปรึกษาประจำหมู่บ้าน จะมาทำตัวอ่อนแอต่อหน้าลูกน้องไม่ได้นั่นเป็นสิ่งที่พวกเค้ารู้กันดี จึงพากันตีสีเข้มตลอดเวลาที่ออกคำสั่ง เพื่อไม่ให้นินจาที่เป็นลูกน้องวิตกกังวล


ณ ป่าทางทิศตะวันออกของหมู่บ้านวายุ

ฉึก! ฉึก! ฉึก! เสียงปาดาวกระจายเข้าเป้าอย่างแม่นยำ เด็กชายวัยตัวรุ่นค่อนข้างโปร่งน่าตาหน้ารักทีเดียว เขายืนปาดเหงื่อท่ามกลางป่าเขา เขาตั้งใจฝึกฝนวิชานินจาด้วยความขยันมาโดยตลอด ด้วยจุดประสงค์ที่ว่าอยากเป็น เงาแห่งพายุเหมือนตาของเขา ดูเหมือนว่าเด็กชายคนนี้จะยังไม่รู้เรื่องอะไรจากสงครามที่แคว้นท้องฟ้าเลย เขารู้เพียงแค่ว่าคุณตาไปทำภารกิจประชุมผู้นำหมู่บ้านจึงไม่ได้คิดอะไรมาก แต่เขาก็รู้ดีว่า

"ชีวิตของนินจามันแขวนอยู่บนเส้นด้ายที่บางเบา และสามารถขาดได้ทุุกเวลา" เพราะท่านตาเขาสอนให้ท่องจำเอาไว้เสมอ เขาจึงพยายามฝึกเพื่อให้ตนเองเหนือกว่าคนอื่นๆในรุ่นเดียวกัน ซึ่งก็เป็นไปตามที่ตาของเขาต้องการและตามที่เขาตั้งใจ เพราะตอนนี้นินจาหน้าใหม่ ที่ถือว่าเป็นแนวหน้าของหมู่บ้านวายุนั้นมีเขารวมอยู่ด้วย

แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อมีเปลวเพลิงพุ่งมาโจมเขาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว พร้อมเสียงเรียกชื่อคาถาอย่างดัง
"วิชานินจาไฟคาถาเพลิงกระจาย" เพลิงนั้นพุ่งมาเร็วมากจนประทะไปที่ตัวเด็กหนุ่มอย่างจัง จนทำให้ผู้ร่ายคาถานั้นตกใจด้วยความเป็นห่วง เขารีบเข้าไปดูเด็กชายผู้ถูกโจมตีอย่างรวดเร็ว

"โทโมอากิ นายอย่าเป็นอะไรนะ" เขาพูดพร้อมดูเหมือนจะร้องให้ ทันใดนั้นเองร่างที่เขาเห็นก็กลายเป็นท่อนไม้ พร้อมกับมีคนเอาคุนัย(มีดสั้นนินจา)มาจี้ที่หลังคอเด็กหนุ่มอีกคนที่ดูเหมือนจะร้องให้อยู่

"เทรุ นายนี่มันอ่อนหัด ตลอดเลยนะ" โทโมอาคิพูดกับเด็กหนุ่มอีกคนเชิงดูถูก ก่อนที่จะหัวเราะเพื่อนชายตน

"คาวาริโนะมิ...(วิชาสลับร่าง)งั้นรึ" เทรุหายตกใจพร้อมอุทานมันออกมา ก่อนที่จะหันมาพูดกับโทโมอากิต่อ

"เจ้าบ้าเอ้ย ฉันนึกว่าเจ้าหลบไม่ทันซะอีก ฉันกล้ว...กลัวที่จะเสียนายไป" เทรุพูดเหมือนกับเหมือนน้ำตาจะไหล พร้อมโผเข้ากอดที่โทโมอากิไม่เป็นอะไร ด้วยความเป็นห่วงเขาจึงกอดแน่นมาก

"ปล่อยเรานะ เทรุ เราอึดอัด ถ้านายไม่ปล่อยเรา เราจะฆ่านาย" โทโมอากิพูดด้วยน้ำเสียงน่ากลัวเล็กน้อยแต่ไม่ได้ทำให้เทรุกลัวเลย แถมเทรุยังใช้จังหวะที่โทโมอากิเผลอ หอมแก้มโทโมอากิไปฟอดนึงเต็ม ก่อนจะยิ้มแบบเจ้าเล่แล้วหอมแก้มโทโมอากิอีกที ทำให้โทโมอากิอายจนต้องดิ้นสุดตัวจนหลุดได้ในที่สุด และร่ายคาถาตอบโต้อย่างรวดเร็ว

"วิชานินจาลมคาถาสายลมพันธนาการ"โทโมอากิการสร้างคุกสายลมเพื่อพันธนาการเทรุนั่นเอง

"เมื่อครู่นายทำกับเราเอาไว้แสบนัก คราวนี้เราขอเอาคืนบ้าง" สิ้นคำพูดโทโมอากิก็ซัดดาวกระจายออกไปพร้อมกันถึง3อัน พร้อมกับตั้งอินร่ายคาถาตามลำดับ

"วิชานินจาคาถาแบ่งภาคดาวกระจาย"ทำให้ดาวกระจายที่ซัดออกไปทั้งหมดมีมากมายและเป็นของจริงทั้งหมด ดาวกระจายมุ่งตรงไปที่เทรุอย่างแม่นยำทำชุดเขาขาดหวิ่นไปหลายที่เลยทีเดียว ก่อนที่จะมีปราการดินขึ้นมาขวางดาวกระจายชุดที่เหลือ

"วิชานินจาดินคาถากำแพงพสุธา" เสียงร่ายคาถาดังมาจากต้นไม้บริเวณที่โทโมอากิฝึกอยู่ จนทำให้โทโมอากิต้องมองขึ้นไปด้วยความโกรธนิดๆ

"ชุน นายมาขัดเราแบบนี้มันไม่เหมาะเลยนะ" โทโมอากิทักเด็กชายตัวใหญ่โตอีกคนบนต้นไม้ด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์เท่าไร

"ขออภัยครับท่านโทโมอากิ พอดีว่าผมตรวจจับพร้อมคำนวนแล้วว่า ถ้าปล่อยให้เทรุโดนดาวกระจายของท่าน เขาอาจบาดเจ็บสาหัสได้ครับ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อกลุ่มเราแน่ๆครับ" ชุนรีบกล่าวขอโทษโทโมอากิพร้อมอธิบายเหตุผลให้โทโมอากิฟัง ก่อนที่โทโมอากิจะเปลี่ยนสีหน้ากลับมาหัวเราะอย่างร่าเริง

"ฮ่าๆๆๆ เรารู้ว่านายมานานแล้ว แล้วก็รู้ด้วยว่านายกับฮารุซุ่มอยู่บนต้นไม้" โทโมอากิพูดอย่างคำนวนไว้แล้วเหมือนกันว่าเรื่องต้องออกมาประมาณนี้ พร้อมพูดต่อ
"ถึงนายจะให้ ฮารุ ซ่อนจักระให้นายแต่มันก็ปิดเราไม่ได้ เนื่องจากนายกับเรามีจักระที่คล้ายกันมาก การตรวจจับจักระของเราจึงจับจักระนายได้อย่างแม่ยำ"

ขณะที่โทโมอากิมัวอธิบายอยู่นั้นเอง การโจมตีระลอกใหม่ก็ได้เริ่มขึ้น แต่เป็นการโจมตีระยะประชิดจนเขาเองหลบแทบไม่ทัน เฉี่ยวตัวไปไม่ถึงนิ้วจนเซไปทางที่เทรุยืนอยู่แต่ทว่า ตอนนี้เทรุนั้นหลุดจากคาถาที่ร่ายพันธนาการไว้แล้ว จึงรับโทโมอากิเข้าไปกอดอีกครั้ง โทโมอากิเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของเทรุคราวนี้ ถึงกับอายจนหน้าแดงเพราะอยู่ต่อหน้าเพื่อนๆ ก่อนจะผลักเทรุออกไปจากตนแล้วเริ่มมองหาผู้ที่โจมตีระลอกที่แล้ว ก่อนที่จะทำหน้าเอาจริง พร้อมพูดว่า

"ฉันเริ่มจะสนุกแล้วสิ ฮารุ เจ้าซ่อนจักระได้ดีมากๆ ทำให้เราตรวจจับจักระของ เทนอิทซึ ไม่เจอเลย แต่เราไม่แพ้พวกนายหรอกนะ" โทโมอากิพูดอย่างขึงขังพร้อมกับกัดนิ้วตัวเองให้เลือดออก แล้วหยุดเลือดลงพื้นแล้วตั้งอินร่ายคาถาในทันที
"โซ่สวรรค์จงปรากฎต่อหน้าเราผู้เป็นเจ้านายแห่งเจ้า"สิ้นคำอัญเชิญแล้ว สายโซ่ก็ออกมาจากนิ้วโป้งด้านขวามือของโทโมอากิ แล้ววิ่งไปหาชุนที่นั่งอยู่บนต้นไม้ พร้อมกับไปพันรอบที่ดาบของชุน เพื่อสร้างดาบที่คล้ายกับของชุน เพื่อเป็นอาวุธให้โทโมอากิผู้ใช้โซ่

"ชุน ดาบนาย เราขอก๊อปก่อนนะ" โทโมอากิกล่าวกับชุน เมื่อโซ่สวรรค์เลือกดาบของชุนไป

"ไม่มีปัญหาครับ ท่านโทโมอากิ" ชุนให้โทโมอากิสร้างดาบใหม่ที่คล้ายของตนไปด้วยความเต็มใจ

แล้วการโจมตีระยะประชิดจากเทนอิทซึก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง แล้วครั้งนี้ดูเหมือนว่าโทโมอากิจะดักทางโจมตีได้ถูก และสะกัดการโจมตีของเทนอิทซึได้ตลอด เทรุเองเห็นว่าเทนอิทซึไม่มีทางโจมตีโทโมอากิได้แน่ๆ จึงให้สัญญาณไปยัง ชุน เมื่อชุนเห็นสัญญาณสัญญาณจากเทรุก็รุ้ได้ว่า เทรุจะเอาจริงเหมือนกัน ชุนจึงต้องกางคาถาดินไว้ให้พร้อมเพื่อเซฟทุกคนจากการฝึก เขาเริ่มตั้งอินอย่างรวดเร็ว แล้วกระโดดลงไปยังโขดหินขนาดใหญ่ด้านล่าง ก่อนจะเอากางฝ่ามือทั้งสองข้างลงบนโขดหินพร้อมร่ายคาถา
"วิชานินจาดินคาถาเตรียมปราการ" คาถานี้ต่างจากคาถากำแพงพสุธาตรงที่ว่า สามารถป้องกันเป้าหมายได้ทันที โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งที่ใช้ ทำให้กางปราการดินต่อเนื่องได้ เมื่อเทรุเห็นชุนเซทการป้องกันเสร็จ ก็ตะโกนไปบอกโทโมอากิอย่างรวดเร็ว

"งานนี้ฉันขอล้มนายด้วยคนนะ โทโมอิกิ" พร้อมกับยิ้มแล้วเขาประจันหน้าตรงๆกับโทโมอากิด้วยดาบคู่ ฮารุเองจึงกระโดดลงมาอยู่ด้านหลังชุน ก่อนที่จะตั้งอินพร้อมร่ายคาถาซ่อนจักระ เทรุด้วยอีกคน

"วิชานินจาลับคาถาซ่อนจักระ" เมื่อฮารุร่ายคาถาเสร็จทำให้ โทโมอิกิจับทางโจมตีจากทั้งเทรุและเทนอิทซึไม่ทัน โดนสันดาบของเทรุเข้าไปเต็มๆ แต่ก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก ดูเหมือนว่าเทรุจะยั้งมือเสมอเมื่อสู้กับโทโมอากิทั้งๆที่ เมื่อครู่เขาสามารถชนะได้ เขายิ้มให้โทโมอากิอย่างเจ้าเล่เช่นเดิม ทำไห้โทโมอากิเสียสมาธิไปอีกครั้ง แล้วเทนอิทซึก็โจมตีมาจากด้านบนอย่างรวดเร็ว ทำให้โทโมอากิกระเดนไปข้างหลัง แต่ด้านหลังเขาก็มีเทรุมารออยู่แล้ว

"บัดซบที่สุด" โทโมอากิ สบถออกมา แต่ดูเหมือนว่าไม่ทันแล้ว เขากำลังลอยไปหาเทรุอีกแล้ว ซึ่งก็เป็นอีกครั้งที่เทรุรับด้วยอ้อมกอดที่อบอุ่นเหมือนทุกครั้ง แต่โทโมอากิก็สลัดเทรุออกอีกครั้ง เลยทำให้เทนอิทซึโจมตีต่อเนื่องได้ แต่ครั้งนี้โทโมอากิหลบไม่ทันแน่ๆ ชุนเลยตัดสินใจกั้นปราการดิน ทำให้โทโมอากิโดนปราการดินกั้นไปพร้อมๆกับเทรุที่อยู่ติดๆกัน จนทั้งคู่ติดอยู่ในปราการดินนะยะนึง ซึ่งทั้งคู่ต้องยืนติดกันจนเรียกได้ว่าเบียดกันเลยทีเดียว เพราะปราการดินนั้นจะกันเฉพาะทีละคน พอลดปราการดินลงโทโมอากิก็หลบสายตาเทรุอย่างเขินอาย ก่อนที่เพื่อนๆจะพากันหัวเราะออกมา ทำให้โทโมอากิอายมากกว่าเดิม

"เจ้าถึงกับเคลื้มเลยหรือ โทโมอากิ" เทนอิทซึเด็กผู้หญิงห้าวๆในกลุ่มแซวโทโมอากิเล่น

"เรา...น่ะ เอ่อ เราอ่ะ...." โทโมอากิอ้ำๆอื้งๆถึงกับพุดไม่ออกจากที่เป็นคนพูดจาฉะฉาน

"เอาน่าข้าก็ไม่ได้ว่าอะไรเจ้านี่นา" เทนอิทซึกล่าวพร้อมกับตบบ่าโทโมอากิอย่างเพื่อนสนิทกัน

ทันทีทันใดนั้นเอง ก็มีเงามาปรากฎอย่างรวดเร็วบริเวณบนต้นไม้ ซึ่งทั้ง5ก็ขว้างดาวกระจายและคานุยออกไปพร้อมกัน ทั้งดาวกระจายและคานุย พุ่งใส่เป้าหมายอย่างรวดเร็ว แล้วทันใดนั้นอาวุธขว้างทั้งหมดก็โดนดาบ ของผู้ที่มาปรากฎตัวสะกัดอย่างรวดเร็ว และกระจายออกไปคนละทาง เมื่อทุกคนได้เห็นดังนั้นก็พากันยิ้มให้บุคคลนั้นและก้มหัวทำความเคารพให้บุคลนั้นทันที เขาก็คืออาจารย์ผู้เป็นนินจาระดับสูง(โจนิน) โนวากิ ซาคุ นั่นเอง

"พวกเจ้าพัฒนาไปมากนะ มากจนข้าตกใจเลยทีเดียว ข้าซุ่มดูอยู่นานแล้วละอินฟอร์เมชั่น พวกเจ้าถือว่าดีมาก การสอบเลื่อนขั้นเป็น โจนินคงไม่มีปัญหาอะไรแน่ๆ" ซาคุกล่าวชมลูกศิษย์ในกลุ่มตัวเองฟัง พร้อมกับจับจุดอ่อนจากการฝึกไปเมื่อสักครู่ และอธิบายจุดอ่อนนั้นๆให้ลุกศิษย์ในกลุ่มฟังอย่างละเอียด โดยใช้เวลาอยู่ระยะนึง ซึ่งเหล่าเด็กๆก็ตั้งใจฟังเป็นอย่างดี

บทสนาจบลงได้ไม่นาน นินจาจากหน่วยลับก็ปรากฎตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมที่แจ้งข่าวจากสงคราม
"รายงานครับ" นินจาจากหน่วยลับกล่าว

"ครับ โนวากิ ซาคุ อาจารย์โจนินกลุ่มมังกร" ซาคุกล่าวรายงานตัวก่อนรับฟังรายงาน

"คือ...ว่า...." นินจาจากหน่วยลับทำท่าอ้ำๆอึ้งๆก่อนที่จะมาไปยังโทโมอากิ ทำให้ซาคุ พอที่จะเข้าใจความหมายว่ามันคืออะไร ซาคุจึงให้เด็กๆหลบออกไปก่อน จากนั้นนินจาจากหน่วยลับก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ซาคุเองก็ตกใจกับเรื่องที่เกิดในแคว้นท้องฟ้าเช่นกัน เขาเป็นนินจาฝีมือเยี่ยมก็จริงแต่ที่เขาไม่ได้เข้าร่วมสงคราม เพราะว่ากลุ่มผู้เฒ่าต้องการให้เขาป้องกันหมู่บ้าน ทำให้เขาต้องทำตามคำสั่งอย่างหลี้เลี่ยงไม่ได้

ซาคุ เองเดินไปหาเด็กๆลูกศิษย์ที่รออยู่ริมบึง ก่อนที่จะบอกแยกย้ายเด็กๆให้กลับบ้านได้ ทุกคนกำลังจะแยกกันกลับบ้าน ซาคุก็ทักท้วงโทโมอากิเอาไว้ก่อน บอกว่ามีเรื่องอยากคุยด้วยให้ตามเขาไป โทโมอากิเดินตามซาคุเข้าไปยังที่ทำงานของเงาหมู่บ้าน ด้วยความสงสัยโทโมอากิจึงถามขึ้น

"อาจารย์ซาคุ พาผมมาที่นี่ทำไมครับ คุณตาก็ไม่อยู่นี่นา" โทโมอากิทำท่าสงสัยก่อนที่จะคิดแล้วพูดออกมาอย่างดีใจว่า

"หรือว่าคุณตากลับมาแล้ว" ยิ่งทำให้เขาตื่นเต้นและดีใจมากกว่าเดิม แต่ก็ไม่มีเสียงตอบจากผู้เป็นอาจารย์เลยแม้แต่น้อย เขาได้แต่พาโทโมอากิเดินไปอย่างเงียบๆ จนถึงห้องที่ปรึกษา โทโมอากิเห็นผู้เฒ่าแล้วก็ก้มหัวคำนับด้วยความเคารพ ก่อนที่จะค่อยเงยหน้าขึ้น ท่านฟูโกะ กวักมือเรียกเด้กชายไปนั่งใกล้

"มาหายายมาโทโมอากิเอ้ย" เด็กหนุ่มก็ไปนั่งข้างๆท่านฟูโกะอย่างเรียบร้อย ท่านฟูโกะเองก็ลูบหัวโทโมอากิด้วยความรัก พร้อมกลับเริ่มร้องให้ออกมา และคร่ำครวญว่า

"โทโมอากิช่างเป็นเด็กที่น่าสงสาร เสียพ่อแม่ไปแต่เด็ก และยังต้องมาเสียคนที่รักไปอีก" ท่านฟูโกะพูดจบเด้กหนุ่มก็เริ่ทเดาความหมายได้จึงน้ำตาไหลออกมา พร้อมกับเข้าไปกอดท่านฟูโกะอย่างแน่นขึ้น พร้อมถามพลางน้ำตาไปด้วยสะอื้นไปด้วยว่า

"มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหมครับท่านยาย?"เขาถามทั้งเสียงที่สะอื้นออกมาอย่างสุดๆ ทำเอาเหล่าผู้เฒ่าน้ำตาคลอเบ้ากันเลยทีเดียว "ไม่เป็นไรนะหลานรัก อยู่กับยายต่อไป เจ้าไม่ได้อยู่คนเดียวนะ ถึงตอนนี้ยายจะแต่งงานมาอยู่กับตระกูลฮิกาชิยามะ แต่ยายก็เกิดมาในตระกูลอามะโทบิระเช่นเดียวกับหลาน หลานจะต้องอยู่ต่อไปเพื่อตระกูลของเรานะ" หญิงชราผู้น่าเกรงขามร้องทั้งน้ำตานองหน้า พร้อมกอดหลานชายสุดที่รักไว้อย่างแน่น

"เจ้าอย่าคิดอะไรมากเลย พี่ฟูกะ(รุ่นที่4)เขายังคงอยู่ข้างๆเจ้าเสมอไม่ได้ไปไหนไกลหรอก" ท่านฟูโกะปลอบโทโมอากิแต่ตัวเองก็ร้องให้ไปด้วยเช่นกัน ทั้งคู่กอดกันร้องให้อยู่นานมาก ก่อนที่โทโมอากิจะร้องให้จนหลับไปในที่สุดในอ้อมแขนของผู้เป็นยายซึ่งเป็นน้องสาวแท้ๆของเงาพายุรุ่นที่4

ท่ามกลางความโศรกเศร้าเสียใจของคนทั้งแคว้น การไว้อาลัยจึงเริ่มตั้งแต่คืนนี้ไปเป็นเวลา7วัน มันเป็นความทรมานเหลือการสำหรับ เด็กชายคนนึงที่ต้องเสียพ่อแม่ไป แล้วยังจะมาเสียตาที่เลี้ยงเขามาไปอีกคน วันนี้ช่างหนักหนาสาหัสเหลือเกินกับเด็กชายคนนึงที่นอนอยู่ตรงนี้...

วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เขาชนไข่ กับ ตินโคตรหล่อ (ก๊อป)

แน่นอนว่าเป็นเรื่อง ตอน ม.5 ครั้บ เราเข้าค่าย เขาชนไก่ เป็นครั้งแรก (ปี 2)

ปลาย เดือน มกรา ก็ถึงผลัดของ โรงเรียนผมที่จะไปเข้าค่ายที่เขาชนไก่ ผมก็ใจตุ้มๆต่อมๆแบบสุดๆครับ เพราะไม่เคยไป มีแต่คนบอกโหด ไม่รู้จะเตรียมตัวไปยังไง

แต่มีคนบอก ให้เอากางเกงในไปเยอะๆครับ สำคัญสุด ผมก็นับจำนวนวันแล้วคูณสองครับ คือไป 3 วันใช่ป่ะ ผมก็เอาไปซะ หกตัว บวกกับตัวที่ใส่ไปเป็น 7 ครับ (เอาไปเยอะกันเหนียว) กับเสื้อใน รด อีก 3 ตัว ตามที่เค้าสั่ง

ผมกับ เพื่อนก็ไปด้วยกันถึงที่หลังกระทรวงประมาณ เกือบๆจะหกโมงแล้วครับ ไปถึงเค้าก็ให้เข้าแถวรวมกันนะ
ผม ก็พยายามจับกลุ่มเอาไว้ แต่พลาดครับ ผมพลัดกับเพื่อนๆเพราะว่าโดนปัดแถว เลยไปเข้าแถวใหม่กับ กลุ่ม รร อื่น ผมงี้ใบ้แดรกเลยครับ มาตัวคนเดียว
นอก จากนั้นแถวผมยังต้องตัดเข้าไปขึ้นรถกับพวก รรนั้นอีก แย่มากๆ เลย เพื่อนหายหมด ขอบอกครับ ไปเขาชนไก่เนี่ยพยายามอยู่ติดเพื่อนให้มากที่สุดจะมีประโยชน์อย่างมากเลย

ผม ก็ซวย ตอนนั่งในรถก็ไปนั่งข้างๆเด็กคนนึงครับ ประมาณว่า กุขึ้นคนแรกๆ รีบหาที่นั่งว่างๆ เด๋วไม่ได้นั่ง
เลยไม่ได้มองคนข้างๆครับ

ตอนรถ ออกผมก็แอบเหล่ๆนิดนึงครับ อาร์ม รร มองไม่เห็นมันอยู่อีกด้านนึง ก็ไม่รู้ว่า รร อะไร
แต่ รอบตัวที่มีแต่ รร ชายล้วนนั้นมันก็คุยกันเสียงดัง ผมก็นั่งเงียบ ฟังเพลงอยู่คนเดียว
ผมก็ สังเกตว่า ไอ่ข้างๆผมมันก็นั่งคนเดียว เพื่อนไม่คบเหมือนกันครับ
ผมก็หัน ไปทักทายเค้าสักหน่อย
"หวัดดีนาย"
เค้าก็หันมาหาผมครับ ตลอดเวลาที่นั่งรถมาไม่ได้เห็นหน้ากันแบบเต็มๆเลยครับ เพราะเค้าจะหันหน้าออกนอกรถมองวิวตลอด
ปราก ฎว่า โชคเข้าข้างผมครับ มันหล่อชิบหายเลย คิ้วเข้มๆ หน้าขาวจั๊วเลยครับ ตาสองชั้นแบบคนไทยนี่แหละ ตามันคมมากๆเลย หล่อโคตรพ่องโคตรแม่งอะ
"ครับ" แล้วมันก็ชำเลืองมองผม
"นาย เอาของมาวางกับเราก็ได้นะครับ"
แล้วมันก็ยกกระเป๋าผมไปวางที่ใต้ขามัน ครับ
ลืม บอกไปว่า เป้ รด เนี่ยปกติ คนอื่นมันจะไปรอคิวกันเก็บไว้ท้ายรถใช่ป่ะ ผมอยากขึ้นก่อนเลยไม่ได้เอาไปเก็บ แบกแม้งขึ้นรถเลย ก็เลยลำบากมานั่งพยุงอยู่ ใบก็เบอเร้อ เผอิญมันนั่งริมหน้าต่าง สะดวกกว่า
"ขอบ ใจนะ"
"รร ไรอ่ะนาย" เขาถามผมครับ
"xxxx ครับ" ผมก็บอกไป
มันพยัก หน้าครับ ออกแนวกวนๆ อ้าวไอ้เห้ นี่มืงทำหน้างี้ดูถูก รร กุนี่หว่าเนี่ย
"นาย มาจาก รร ไรล่ะ"
ผมถามมัน บ้าง
" yyyy "
เป็น รร คริสชายล้วนอีกแล้วครับ แต่คนละ รร กับพวกคนอื่น ถึงว่า นั่งเงียบไม่คุยกับใครเลย
"ทำไมมาคนเดียวล่ะครับ" ผมถามต่อ
"เรา ดรอปปีที่แล้ว จริงๆตอนนี้ปีสามแล้วนะ แต่ปีที่แล้วไปทุน AFS เลยดรอปมาเรียนกับพวกน้องๆ ไม่รู้จักใครเลย เมื่อเช้าก็มาคนเดียว มองหาใครไม่เจอ ก็เลยมาเข้าแถวกับใครก็ไม่รู้ แย่ว่ะ"
"งั้นก็เป็นพี่ดิ เนี่ย ผมถูกจับแยกกับเพื่อนๆ ไปถึงเค้าจะให้รวมกันใหม่มั้ยครับ"
"ไม่รู้ ว่ะ ไม่ต้องเรียกพี่ก็ได้นะ เอาที่จิง เราก็อายุเท่าๆนายนั่นแหละ"
"อ่อ..."
"ชื่อ ไรจะได้เรียกถูก" ผมถาม
"ติน นายละ"
"ต้นครับ"
"เอางี้ป่ะ ถ้าเค้าไม่ให้รวม นายบัดดี้เราล่ะกัน" ตินเสนอ ผมภาวนาอย่าให้มันรวม รร เลยครับ จะได้นอนเตนท์เดียวกับตินสุดหล่อ ฮ่าๆ
"ได้ ได้ ได้" ผมดีใจเป็นที่สุด

นั่ง รถไปได้จนถึงที่วัดอะไรสักอย่าง ก่อนขึ้นเขา เค้าก็มาเล่าๆ พูดๆๆ ถึงประวัติ แล้วก็พักเดินเล่น ยี่สิบนาที ก็ขึ้นเขาชนไก่ แล้วก็ไปถึงหน้า อนุสาวรีย์ของ ร.6 ยืนตากแดด จนหน้าเกรียม
ผม ก็ยังยืนคู่กับตินอยู่ เหมือนเดิมครับ เราตัวติดกันเลย ต่างคนต่างตัวคนเดียว เลยไปไหนไปกัน มองไปไกลๆ ก็เห็นกลุ่มเพื่อนมันอยู่ด้วยกัน โบกมือทักเรา เรียกเราให้ไปนั่น เราก็อ้างใหญ่บอกว่าเดี๋ยวโดนแดรกเอา ก็ยืนยันจะอยู่กับตินแล้วนี่ครับ

ตอน ตินยืนผมเลยได้สังเกต รูปลักษณ์ของเขา
สูงโปร่ง อกผาก ยิ่งตอนใส่หมวกรด แบบหมวกปะคิ้วนะ แล้วมีเหงื่อสองสามหยดที่ขมับด้วย ผมว่ามันดู หล่อสุดๆเลย ตินสูงประมาณ 175


พอทำอะไรต่อมิอะไรจบ ก็นั่งรถไปอีกสักพัก จนถึง กองพันครับ
ปีสองอยู่แค่ตีนๆเขาชนไก่ ยังไปไม่ถึงเขาชนไก่หรอกครับ

ก่อน อื่นเค้าก็แบ่งหมู่ แบ่งหมวด แบ่งกองกันก่อน ผมซึ่งเข้าแถวไกลจากเพื่อน ก็แยกเหมือนเดิม เพราะครู รด เค้าจะชี้แถวๆเลยว่า คนนี้แถวนี้ เอ้าเดินออกมาสองก้าว แบ่งกองร้อย
ตอนเค้าจับบัดดี้กัน ปรากดว่า เค้าใหอิสระ แต่ต้องจับกันในหมวดตัวเองเท่านั้น ผมก็สมหวัง ตินมองหน้าผมแล้วพยักหน้า
ครูฝึกบอกให้ไปช่วยกันกาง สิ่งที่เค้าเรียกว่า กระโจม

ก็ เป็น เต๊นท์ ที่ไม่ใช่เต๊น มีแค่ผ้าใบปิดข้างบน ข้างล่างเป็นพื้นดิน ต้องเอาผ้าใบที่เตรียมากันเองมาปูนอนอีกที ผมกับตินก็เร่งช่วยกันปู
ข้างในคับแคบมากครับ เต้นก็สั้น ท่าทางตินมันจะนอนแล้วขาเกินแน่ๆ

พอเสร็จ เค้าก็ไปฝึกๆๆๆ
ตอนเย็น ก็อาบน้ำ
อาบ น้ำนี่ ผมขอบอกว่า แทบไม่ได้อาบหรอก เวลามันกระชั้นมากๆ ผมถอดเสื้อผ้าวิ่งไปตักหน้าสองสามขัน ล้างหน้า แปรงฟันครับ ไม่ทันได้ดูใครหรอก ในห้องน้ำก็แสงสลัวๆ รู้อย่างเดียว อยู่ท่ามกลาง มัดกล้าม และกางเกงในสีสรรต่างๆลอยไปลอยมา พวกกระเทยก็ใส่ชุดคลุมอาบน้ำกัน พวกคนอื่นๆก็แกล้งแหย่เล่นตามประสา
ตอนอาบน้ำผมแอบสังเกตหุ่นของตินครับ มันน่าจะเป็นนักกีฬาด้วยซ้ำ มีกล้ามอก กล้ามท้อง เอวเล็กมากเลย แล้วตูดยังแน่นๆด้วย เป้าก็ตุง โหยยย
ผมได้สังเกตอยู่คนเดียวแหละ เพราะมันอาบตรงข้ามผมพอดี คนอื่นๆก็มีเดินชนกันบ้าง ทำสบู่ตกบ้าง
แต่ ทำสบู่ตกเนี่ย ครูฝึกเค้าดักคอไว้แล้ว คุยซะใครทำสบู่ตกเพื่อนๆก็หัวเราะเชียบอกให้เก็บ แล้วก็ล้อคนนู้นคนนี้ตามประสาอีกเหมือนกัน
นอนเค้าก็ต้องนอนกันจิงๆ ห้ามออกนอกเต๊นท์ก่อนเที่ยงคืน ผมยังโชคดีไม่ต้องไปเป็นเวร ก็เลยนอนทั้งคืน
ตอนนอนเราก็นอนเบียดๆกันเล็กน้อยเพราะ ที่ส่วนมากก็วางของ นอนไหล่ชนกันเลยด้วยซ้ำ
ผม ตื่นเต้นไปหมด นอนเต๊นท์เดียวกับติน ตินมันหลับยากมาก มันก็เที่ยวคุยสัพเพเหระ เล่าชีวิตมัน มันบอกว่า มันเคยมีแฟน แต่เพราะว่าไปต่างประเทศ กลับมา ผู้หญิงก็มีแฟนใหม่ไปแล้ว มันเข้าไปตบผู้หญิงแล้วผู้หญิงก็พาแฟนมาต่อยมัน ชีวิตแม้งโคตรจะมันเลย
ผมก็แอบสงสารมันอยู่น้อยๆ มันบอกว่า ไปจีบหญิงที่ไหนก็มีแต่คนแอนตี้ เพราะข่าวว่ามันตบแฟนเก่านั่นแหละ
มัน เลยยังโสดอยู่ถึงตอนนั้น
ผมก็ถามเรื่องส่วนตัวบ้างละ ตอนนั้นเราก็สนิทกันพอควรแล้วเลยใช้ กุๆ มิงๆ ถามประสา
"กุว่านะ มืงก็หล่อ ทำไมไม่มีหญิงมาจีบบ้างละวะ" ผมพูดกับมัน
"ก็มีว่ะ แต่ไม่น่าสนใจหรอก" มันตอบมา
"ทำไมละ ไม่สวยหรอไง"
"สวย สิ ดาว รร หญิงล้วนมาคนนึง แต่กุว่าเค้าไม่ค่อยดึงดูดกุเท่าไร ไม่รู้ทำไม ตั้งแต่เรียกกับอีนั่น (มันเรียกว่า อี จริงๆนะ) เจอหน้าผู้หญิงก็ไม่อยากมองแล้ว"
เห้ยยย หรือว่า มืงชอบผู้ชายยยยย ผมคิดในใจ แอบเข้าข้างตัวเอง
"ดูนี่นะ" แล้วมันก็หยิบโทรสับขึ้นมา
จริงๆ เค้าห้ามใช้มือถือครับ แต่อยู่ในเต๊น กระซิบๆกัน ไม่มีใครรู้หรอก (ถ้ารู้ก้ซวยสิ)
มันก็ไล่ในรายชื่อให้ผมดู มีแต่ชื่อผู้หญิงครับ
แล้ว มันก็ไล่ลบให้ผมดู
"กุจะไม่สนผู้หญิงแล้วว่ะ มีแต่ปัญหามากมาย ไว้ค่อยคิดตอนจบไปเลยดีกว่า ตอนนี้กุมุ่งเข้า จุฬา " โอ้ว รักไม่มุ่ง มุ่งแต่เรียน !!!
"สนป่ะ" มันเปิดคลิปโป๊ให้ผมดูครับ (ชญ)
มันก็ให้ ผมดู แต่ต้องใส่หูฟังเอา เปิดเสียง โดนแดรกแน่ๆ
"กุไม่ได้ชักว่าวมา อาทิตย์นึงแล้ว" ตินบอก
"เคยเย็ด ญ ป่ะวะ" ผมถาม
"ไม่เคยว่ะ อีนั่น แม้งเล่นตัว ขอเย็ดก็ไม่ให้ บอกว่าหวงตัว โธ่ กุว่าตอนนี้โดนผัวใหม่ยำจนหิขาดหมดแว้ว"
"เห้ย แค้นเขาขนาดนั้นเลยเหรอ"
"เอ อดิ เป็นมึงว่าไงละ"
"ก็คงแค้นนะ"

เราก็นอนคุยเรื่องพรรณนี้ไป เรื่อยๆ ประกอบกับดูคลิป เรานอนหัวชนกัน ลมหายใจของตินมาปะกับผมเลยทีเดียว ดูเสร็จ ก็ปิด ตินมันบอกว่า
"เที่ยงคืนยังวะ กุจะออกไปว่าว ไปด้วยกันป่าว" ตินชวน
"ว่าวด้วยกันในนี้เลยดิ"
"ควาย หกเลอะจะเช็ดยังไง"
"เออๆ กุว่าเที่ยงคืนแล้วไปดิ"

ปรากดว่า ไปถึงครับ ห้องน้ำ แม้งสภาพ กรังๆ ตินบอกว่าหมดอารมณ์ กลับเต้นท์นอนดีกว่า

คืน นั้นผมอยู่ไม่สุขเลยครับ ต้องพยายามอดกลั้นใจไม่ให้ ลักหลับติน และก็ต้องข่มตาหลับ เอาแรง

รุ่งเช้าก็ฝึกเหมือนเดิม ไม่มีไรมาก เหนื่อยนิดๆ ส่วนมากนั่งฟัง ตอนเย็นก็อาบน้ำ เข้านอนเหมือนเดิม

แต่ คืนที่สองมีเรื่องตื่นเต้นเกิดขึ้นครับ

หลังจากนอนมาได้ครึ่งชม ตินก็บอกว่าร้อน ขอถอดเสื้อนอน
คืองี้ครับ ก่อนมานี่ อาจารย์เค้าก็ย้ำๆว่า อากาศกลางคืนหนาวมาก เอาชุดกันหนาวไปด้วย เอาเข้าจริงๆ แม้งโคตรร้อนเลย
ติดก็ถอดเสื้อผ้าเลยครับ
มันนอนกางเกง ในตัวเดียวจริงๆ
"มืงนี่ ไว้ใจกุจังวะ รุ้ได้ไงว่ากุไม่เปนเกย์ เจอกันแค่สองวัน" ผมก็ถามมัน
"ก็ ถ้ามืงเป็นก็ดีดิ กุว่ามืงน่าเย็ดดีนะ มาๆมาให้กุเย็ดทีนึงนะ" แล้วมันก็เล่นกับผมครับ มากอด เอาครวยมาไถๆ ครวยผมลุกตั้งชันเลย ไม่รู้ว่ามันทีเล่นทีจริง แต่ที่แน่ๆ ครวยผมโด่ แล้วมือมันก็มาโดนพอดี
"เฮ้ย นี่มืงเกิดอารมจริงเหรอวะ ไอ่ห่า กุแค่เล่นๆ" มันเสียดังไปนิดครับ จนไอ่เวน เวร (ไอ้เวร เวณ) ข้างนอกมันได้ยิน เลยตบเต๊นท์ทีนึงเป็นการเตือน
ตินมันขำแบบไม่มีเสียง ครับ
แล้วก็กระซิบล้อผมว่า "ต๊าย ต้นขา ต๊ายย ตูดน่ารักจังนะ" มันเอามือมาบีบตูดผมครับ
เป็นไงเป็นกัน
ผมหันมากอดแล้วจูบปากมันเลย ครับ แล้วก็ขึ้นไปคร่อมตัวมันข้างบน
มันก็ขัดขืนดิ้นมากไป จนไอ่เวรคนเดิมแม้งก็พูดว่า
"เฮ้ย มืงทำไรกันวะ เต๊นท์ขย่ม"
ตินก็ โผล่หัวออกไป
"สัด จัดของอยู่ เอี้ย ไปไกลๆเหอะ คนจะนอน"
"ไหนขอดู เมียกระเทยมืงดิ๊" แล้วมันก็เลิกเต๊นท์มา
ชิบหาย เพื่อนกุนี่หว่า
"อ้าว ไอ่ต้น... มืงไว้ใจได้เลยไอ่หน้าหล่อ ไอ่เห้นี่อะ ไม่เป็นกระเทยหรอกเว้ย....... แต่มันจะล่อตรุดมืงงะ" แล้วมันก็ขำแล้วเดินออกไป
"สัด เกือบไปแล้วไง ทำเชี่ยไรวะ" ตินมันเข้ามาคุยกับผมครับ
"โทดว่ะ ขำๆ มืงเล่นก่อน" ผมแก้ตัว
"ขำพ่อ งมืงดิวะ ควยโด่ซะขนาดนั้น จูบปากกูซะขนาดนี้"
มันเอามือแตะริมฝีปากตัว เองครับ
แล้วก็จับคางผมดึงหน้าผมไปใกล้ๆมัน
"มืงไม่รู้หรอกว่ากุอยาก เย้ดมืงจริงๆ กุพูดจิง ไม่ได้ล้อเล่น อย่ามาทำให้ความหวังกุ เด่วตรุดมืงจะพัง เฉยๆไว้จะดีกว่า กุจะนอนแล้ว"
โห มาดโหด ผมล่ะ รักชิบหาย
"เฮ้ย ไอ่ติน มืงอยากเย้ดก็เย้ดได้ว่ะ กุก็อยากโดนมืง กุพูดจริง" ผมสารภาพไป
ตินมันนอนตะแคงเอาหน้ามาชนกับผม
"จริงป่ะ" มันถามผมด้วยน้ำเสียงอ่อนลงจากเดิมแล้ว
"เออ"
"แน่ใจนะมืง นี่กุขอบอกมืงเลยนะว่า กุไม่ได้ล้อเล่นอะไรเลย แต่กุพยายามบอกมืงตั้งนานแล้วว่า กุไม่ชอบผู้หญิงแล้ว" ตินบอกผม
"โห มืงดูถูกกุนี่หว่า ไอ่สัด ทำไมไม่บอกกันแต่แรก"
"กุเหนมืงก็แมนดี กุก็เลยไม่กล้าทำอะไรว่ะ" ตินบอกผม
"เออๆ มืงหล่อชิบหายเลย กุเงียนแล้วนะ"

ทั้งหมดนี้กระซิบกันนะครับ ถ้าเต๊นท์ข้างๆได้ยิน ก็คงชิหายเลยยย

แล้ว เกมรักก็เริ่มต้นครับ ผมแก้ผ้าตัวเองจนหมด ตินเหลือแต่กางเกงใน แล้วเราก็กอดฟัดกัน ผมเอามือลูบเป้ามัน ใหญ่มากๆ แข็งตุงแน่นจริงๆ
เราลำบากกันหน่อยเพราะว่าที่แคบ
ก็พยายามพลิกตัวกัน มาเป็นท่า 69 ผมก็เผยอกางเกงในมันออก เผยให้เห็นครวยอันมหึมา หัวถอก สีแดงน่ากิน
ผมไม่รอช้าเอาปากคาบทันที แล้วอมเข้าไปทั้งดุ้น ตินก็ทำอย่างเดียวกันให้ผม ผมพยายามไม่ครางออกมา (จะครางได้ไง มีครวยอยู่เต็มปาก)
ครวยตินออกรสเฝื่อนๆ น้ำเงียนมันแทบจะทะลักอยู่แล้ว มันเล่นของมันไปพรางๆ
ติ นมันจับขาผมแยกออก แล้วบรรจงตวัดลิ้นตะลุยรูที่ผมรักษาไว้ และเคยสาบานว่า ชาตินี้ จะมีหน้าที่เย็ดอย่างเดียว ไม่เสียเอกราชให้ใคร ก็จบสิ้นลงให้ตินนั่นเอง
ติดมันแหย่ลิ้นลงไปลึกมากๆ จนผมสยิว ขนลุกตั้งไปทั้งตัว ครวยผมที่กดทับลงบนหน้าอกตินมันร้อนตุบๆ แทบระเบิด ครวยตินเองก็ใช่ย่อย พ่นน้ำลายออกมาเป็นระยะๆ ผมต้องใช้ปากทำความสะเอาดให้อยู่ตลอดเวลา
พอเสียวกันได้ที่ ผมก็พลิกตัวกลับมาทางเดิม นอนทับบนตัวติน จับเอวมัน แล้วดูดปากกันแบบมันหยด ตินเอามือแทรกเข้ามาระหว่างตัวเราทั้งคู่มาบีบครวยผมเล่นอย่างสนุก
ติน จับผมกดลง แล้วครวยของเราสองก็ชนกัน ครวยตินอุ่นๆดี ตินเปลี่ยนเอามือมาบีบก้นผมเล่น ผมตอบแทนมันโดยรัวลิ้นใส่ปากมัน และเลียไล่ไปทุกส่วนของหน้า และอกแข็งปั๋ง
ก่อนเกมจริงจะเริ่ม ตินก็ครางออดๆ กระซิบว่า พอก่อน จะแตก ๆ ผมเองก็ไม่ไหวเหมือนกัน
เราเลย หยุดพัก นอนทับกัน กอดกันกลม หายใจรดหน้ากัน เหงื่อท่วม พื้นผ้าใบเปียกโชก
ผม นอนจูบปากกับมันไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปปล่าวๆ
กลิ่นเหงื่อ กลิ่นตัว กลิ่นคาวน้ำเงี่ยนคละคลุ้งกันอยู่ในเต็นท์ ถ้าใครเปิดเต๊นทร์มาเจอสภาพงี้ มีหวังพวกเราชิบหายแน่นอน
ตินเอามือจับตูดผมเป็นสัญญาณเตือน
แล้ว ผมก็ยกตัวขึ้น ตินจับเอวผม เล็ง เป้า แล้วเอาครวยผลักดัน ยัดเยียดเข้ามาในรูตรูดผม ที่ตอนแรก เราช่วยกันอย่างสุดกำลัง เพราะผมไม่เคย รูจึงฟิตมาก แต่น้ำที่หล่อลื่นก็คือ น้ำเงียนของตินและน้ำเหงื่อของเราทั้งคู่ จนสำเร็จ ครวยมหึมาของตินมาแผ่ความร้อนอยู่ในรูตรูดผมทั้งดุ้น ผมอ้าปากครางแบบไร้เสียง ทั้งเจ็บแสบเสียวซึ้ง ปะปนกันหมด ตินเลียหัวนมให้ผม ผมลูบหัวตินแล้วคร่อมด้วยท่านั่งเทียน โชคดีหน่อยที่เตนท์พอสูงอยู่บ้าง ผมจึง ขย่มน้ำหนักลงบนกล้ามท้องแข็งๆของตินได้อย่างต่อเนื่อง
ตินเอามือกอดเอว ผม แล้วเด้าจังหวะช่วยผมซอย
ผมเริ่มจากเจ็บไปสู่เสียว เสียวมาก จนถึงเสียงชิบหาย จนเผลอร้องออกมาเบาๆ ตินต้องทำมือจุ๊ปากบอกให้ลดเสียงลง
ครวย ตินคับอยู่ในรูอันบอบบางของผม ร้อนจนแทบระเบิด มือตินเองก็มากำๆทั้งไข่ทั้งครวยผมทั้งพวงเล่น
จนเราเปลี่ยนท่า ตินเปลี่ยนมารุกอย่างเต็มกำลัง จับผมนอนหงายแล้วแหกขา เราเปลี่ยนท่ากันทั้งๆที่ครวยตินยังคาอยู่ในตรูดผม
ท่า ใหม่ทำให้ตินสะดวกขึ้น แต่มันกลับเป็นภัยต่อรูตรูดผมจริงๆ มันซอยผมแบบไม่ยั้ง รูตรูดผมแทบไม่มีโอกาสให้อากาศแทรกตัวไปเลย มันซอยผั่บๆเป็นจังหวะ เกินสองครั้งต่อวินาที มันเก่ง รัวเร็ว จริงๆ มือของตินยันพื้นเหมือนท่าวิดพื้น เหงื่อของตินผู้อยู่สูงกว่า หยดใส่หน้าใส่ตัวผมติ๊งๆ ที่หยดใส่ปากผมก็กลืนลงไปอย่างไม่รังเกียจ
มือ ผมโอบรอบคอติน แยกช่วยโยกเข้ากับจังหวะที่เร็วยิ่งกว่ารัวกลอง ตินเริ่มหายใจหอบ แล้วก็เริ่มปล่อยเสียงครางเล็ดลอดออกมาแล้ว
ไม่ต้อง คราง ถ้าคนที่มาเอาหูแนบกับผ้าใบเตนท์ก็น่าจะได้ยิน เสียงจังหวะ ผั่บๆ ของพวกเรา
ติ นนอนทับตัวผม ตูดก็ยังเด้าเข้าตัวผม เอวที่ลอยขึ้นผั่บๆข้างหน้าผม มันดูได้อารมณ์ไปอีกแบบ ตินเลียไซร้คอผม มือก็ซอยว่าวครวยผม จนของผมแข็งปั๋ง และใกล้เต็มที ผมทนไม่ไหว ทั้งตรูดทั้งครวย โดนพร้อมๆกัน ใครทนไหว ก็เหนือมนุษย์แล้ว ตินเก่งมากๆ ขณะที่เด้าเอว ซอยครวยตัวเองเข้าตรูดผม อีกมือก็ถอกเหนี่ยวครวยผมด้วยความถี่ที่แทบจะพร้อมกัน ถ้าเป็นวิชาฟิสิกส์ก็คงต้องบอกว่า เกือบๆจะเกิดเรโซแนนซ์กันแล้ว ผมเกร็งทั้งตัว กระซิบด้วยเสียงสั่นเครือ "ไม่ไหว ไม่ไหวแล้ววววว" และก็พุ่งทะยานทุกสิ่งทุกอย่างออกมา พร้อมๆกับความร้อนในกายที่แผ่ออกมาจนหมด น้ำผมพุ่งทะลักไกลมาถึงอกกล้ามของติน น้ำขุ่นๆในคละกับน้ำเหงื่อ ทำให้ มันเหลวลื่น ทนต่อแรงดึงดูดไม่ไหว และหยดหนืดลงมาบนตัวเจ้าของ ก็คือผม ตินไม่สนใจภาพเหล่านี้ ทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่ ตินกลับมาถึงภาวะวิดพื้นเหมือนเดิม ซอยถี่ยิบเนื่องจากทั้งแรงดันจากมือและเอว รวมถึงตรูดผมที่ส่งตัวเองขึ้นไปกระเด้าคู่กับครวยของติน
ผมกับตินควบกัน จนผมเริ่มรู่สึกว่าอะไรอุ่นๆมันทะลักเข้ามาในรูทวารของผม มันเกิดขึ้นพร้อมๆกับที่ตินเกร็งทั้งตัว แล้วครางออกมาครั้งที่ดังที่สุด แล้วก็ปล่อยน้ำรัก พุ่งทะยานด้วยแรงฉีดมหาศาล ที่ทำให้อสุจิที่เข้าใจผิด อาจจะแหวกว่ายขึ้นมาบนลำไส้ผมจนถึงหัวใจเลยทีเดียว (ขนาดนั้น)
ตินถอน ครวยออกมา แล้วล้มฟุบลงบนตัวผมอย่างหมดแรง
เรา นอนกอดกัน เหงื่อท่วมคนทั้งคู่ ตัวตินกับผมประกบติดกันโดยมีน้ำกามของผมเป็นตัวประสาน และครวยของติดที่คารูตรูดผมอยู่ทั้งอย่างนั้น เรานอนจูบกัน และคงอยู่ท่าอย่างนั้นทั้งคืน
จนใกล้รุ่ง ตินเขย่าตัวผมด้วยกัน กระเด้าอีก ทั้งๆที่น้ำเก่ายังคงคาอยู่ในก้น แต่ติดก็ยังซอยต่อไม่ยั่งเช่นเดิม ตินขย่มผม จนผมต้องตื่นและเข้ามาโผโอบคอมันและดึงตัวขึ้นไปนั่งจูบมัน ตินอยู่ข้างล่างผมอยู่ข้างบน ผมเอาเท้าเหยียดไปข้างหลังติน ตินนั่งคุกเข่าครวยทิ่มก้นผม ปากเราจูบกัน คราวนี้เกมรักดำเนินไปแบบเนิบๆ คงหมดแรงทั้งคู่ ตินบี้ครวยเข้าตรูดผมอย่างต่อเนื่อง ด้วยแรง mg ตัวผมที่หมดแรงที่จะกระเด้าแล้ว ก็ตกลงเข้าเสียบตรงครวยของตินพอดี ตินจึงทำหน้าที่เด้าเองคนเดียวอย่างไม่บ่น และพ่นน้ำรักเข้าเต็มตรูดผมอีกครั้ง ก่อนที่จะถอนครวยออกมาสำรวจตัวเอง แล้วยิ้มแป้น ใบหน้าหล่อเหลาของมันทำให้ผม จับมันจูบปากมันอย่างอดใจไม่ไหว แล้วจับมือมันมาวางบนครวยผม มันก็กุมๆให้
ตินลดเลื่อนตัวมาเอาหน้าชนเจอะ กับครวยทั้งแท่งของผม แล้วเอาปากครอบไปกลืนกินมันไปทั้งอัน แล้วดูดอย่างกับดูดไอติมแท่งนึง เสียงจ๊วบๆ ดังต่อเนื่อง น้ำลาย กับความอบอุ่นจากปากติน และกระบวนการซอยปากเข้าชนกับครวยผม ทำให้ผมพ่ายแพ้ และพ่นพิษลงคอเพื่อนตินอย่างหมดแม็ก
ตินผละตัวไปนอนหอบข้างๆผม ผ้าใบมันชุ่มไปด้วยเหงื่อไปหมดแล้ว ตัวผมก็แห้งกรัง ตรูดผมก็อยากทำความสะอาดเต็มที แต่นี่มันเช้าแล้ว ผมคงไม่มีโอกาสทำความสะอาด
ตินยิ้มให้ผมแล้วพูดว่า
"วันนี้คงไม่ต้อง ไปอาบน้ำนะ ถ้าเพื่อนๆเห็นคราบที่ท้อง จะบอกเพื่อนว่ายังไง"
"เออ น้ำเงียนมึงเต็มก้นกุเลยว่ะ ทำไงดี"
"มานี่มา..."
แล้ว ตินก็จับผมมานั่งคร่อมให้มันเลียตรูดจนสะใจลิ้นมัน ก่อนที่เราจะได้ยินเสียงนกหวีดปลุก แล้วรีบใส่กางเกงในกับเสื้อผ้ากันอย่างจ้าละหวั่น ผมเอาเสื้อรดตัวที่ไม่ใส่แล้วเช็ดทำความสะอาดเตนท์อย่างเร่งรีบ เราวิ่งทั้งชุดเต็มยศ ไปล้างหน้าแปรงฟัน คนรอบข้างมองเราด้วยสีหน้าแปลกๆ
"ต้น ทำไรมาวะ โทรมว่ะ เหมือนไม่ได้นอนทั้งคืน"
ก็ไม่ได้นอนทั้งคืนจริงๆนั่น แหละ
ผมยิ้มให้ติน

เราเก็บของกันแบบไม่มีแรง เหนื่อยกว่าฝึกทั้งสองวันซะอีก
วันที่สามไม่มีไรมาก ก็แบกของขึ้นรถกลับบ้าน
ขากลับผมก็แลกเบอร์กับติน
กลับ กทม ก็โทรคุยกับมันทุกวัน
จนได้ข่าวอีกทีว่า ตินมีแฟนแล้ว เป็นผู้หญิงมาจีบมันด้วย
ผมจึงเพลาๆเรื่องตินลงไป ได้แต่เก็บภาพวันนั้นไว้ฝันต่อ
ตินโทรมาชวนไปบ้านมันหลายครั้งหลายหน ทั้งๆที่มันมีแฟนแล้ว แต่ผมก็ปฏิเสดมันไป
สุดท้ายมันบอกเลิกผู้หญิงคน นั้น แล้วตามจีบคนอื่นแทน
นั่นก็คือผม

วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2553

น้องผัว...ที่รัก (ก๊อป)

ผมอยู่กับแฟนมาหลายปี แฟนของผมก็เป็นคนหน้าตา..โอเค แต่เรื่องเซ็กซ์นั้นเราไม่ค่อยจะมีอะไรกันบ่อยนัก อาจเป็นเพราะเราอยู่กันมานานมาก แต่แฟนผมมีน้องชายอยู่คนนึงชื่อต่อ ผมเห็นมาตั้งแต่ยังเรียนมัธยมก็น่ารักแบบบ้านๆครับ ไอ้เราก็ไม่คิดอะไรเพราะเป็นน้องชายแฟนแต่ด้วยผมอยู่กับแฟนมาพอสมควร น้องแฟนผมก็รู้เป็นนัยว่าผมกับแฟนคบกันแบบไหน แต่พอเขาเริ่มโตขึ้นกลายเป็นคนสูงยาวรูปร่างเปรียว ผมเห็นน้องแฟนที่ไรอดที่จะมองที่เป้าไม่ได้สักที ก็เพราะตรงเป้ามันมักจะนูนเป็นพิเศษ เหมือนเวลาใส่กางเกงในแล้วเอาควยขึ้นประมาณนั้น

ผมพยายามหาแผนการณ์ที่จะให้ได้มีอะไรกับต่อซักครั้ง จนกระทั่งวันที่ฝันเป็นจริงก็มาถึง วันนั้นที่บ้านผมหลอดไฟเพดานตรงหน้าโต๊ะแต่งตัวมันไม่ติดอยู่ดวงนึง
ผมเลยวานให้ต่อมาเช็ดหลอดไฟให้หน่อย ก่อนเช็คไฟผมก็เตรียมอุปกรณ์เล็กน้อยมีไขควงแล้วก็บันได
พอต่อมาผมก็ขนของที่เตรียมไว้ไปบนบ้านตรงที่หลอดไฟเสีย ขณะที่น้องแฟนกำลังเช็คหลอดไฟกับสายไฟนั้นผมก็เป็นผู้ช่วยคอยยื่น ส่งของ ถือของให้
ตอนที่เขาปีนบันไดขึ้นไปแก้ปัญหาของหลอดไฟนั้น ผมก็คอยยืนใกล้ๆเพื่อที่จะได้คอยรับของ ส่งของให้ แต่สายตาผมไม่ได้มองเวลาเขาทำงานเลยครับ
ผมมองแต่ตรงเป้าที่นูนขึ้นมา เพราะเป้าเขาอยู่ตรงหน้าผมพอดี พอเขาส่งของให้ผมก็รับตามปกติ แต่พอตอนที่ผมส่งของให้เขาผมก็แกล้งเอามือไปโดนตรงเป้า
เขางอตัวหลบเล็กน้อย ขณะที่เขาทำงานปากผมก็ชวนคุยไปเรื่อยๆ แต่สายตาผมจ้องไปที่เป้าของต่ออย่างเดียว
พอดีเขาเรียกผมเพื่อจะส่งหลอดไฟให้ ผมก็เอื้อมมือไปรับแต่สายตาผมไม่ได้มองว่าเขาส่งมาให้ยังไง ผลเลยคว้าอากาศมาแทน
ต่อเลยพูดว่า "อะไรกันพี่ ส่งของแค่นี้ก็รับไม่ถูก ใจลอยเรื่องไรครับ"
ผมตอบกลับไปว่า "ไม่มีอะไรหรอกพี่ก็แต่คิดอะไรไปเรื่อยเปือย" เขาก็หัวเราะแล้วทำงานต่อ

จากนั้นผมก็ยังคงไม่ละสายตาจากเป้าของต่อ ผมไม่ทันสังเกตว่าเขาจ้องมองลงมา เพราะผมนึกว่าเขาจะทำงานของเขาไป
เขาถามผมว่า "พี่มองไรครับ"
ผมได้ทีบอกเขาไปว่า "มองไขควงวัดไฟที่อยู่ ไม่รู้ว่าจะใช้วัดไฟได้หรือเปล่า"
เขาหัวเราะอีก แล้วพูดว่า "ผมก็กำลังใช้ไขควงวัดไฟอยู่ครับพี่ ผมเอามันแทงเข้ารูไฟก็ขึ้นนะครับ มันยังใช้ได้ดีพี่จะลองดูมั้ยครับ"
ต่อผมพูดแบบนี้ ก็เข้าทางผมอีกครั้ง ผมเลยบอกว่า "สงสัยเราจะแทงรูเก่งละซิ"
น้องแฟนผมบอก"ถ้ามีรูให้แทง ผมก็แทงได้ทั้งนั้นแหละครับ"
ผมได้ยินแบบนั้นใจชื้นขึ้นเยอะ แต่ก็ยังไม่อยากทำให้น้องแฟนตื่น ผมก็ช่วยส่งของให้เขาตามปกติ

แต่ตอนนี้มันมีอะไรผิดปกติที่ตรงเป้าของต่อแล้วครับ
ก็ตรงเป้าที่เคยนูนธรรมดา มันเริ่มมันนูนขึ้นเป็นลำยาว แถมกระตุกๆเล็กน้อย ที่สำคัญเขาแกล้งเอี้ยวตัวมาให้เป้าอยู่ที่หน้าผมแบบใกล้ๆเลยครับ
ผมกลืนน้ำลาย อดใจไม่ไหวแล้วครับ ผมพูดว่า "ทำไมไขควงของเรามันยาวจัง ยังใช้ได้ดีจริงหรอ"
ต่อบอก "ถ้าพี่อยากรู้ก็ลองเอาไปใช้ดูซิครับ สงสัยมันอยากจะเสียบรูอะครับ"
พอเขาพูดเท่านี้ ผมก็ซุกหน้าเข้าไปที่เป้าของต่อทันที ผมเอาจมูกไซร็ที่Jooของน้องต่อ
ต่อแอ่นเป้าเข้ามาแนบหน้าของผม เอามือจับหัวผมแล้วกระเด้าเสยขึ้นลง
ต่อบอก "พี่ครับ....ผมเสียวจัง"
ผมค่อยๆดันตัวต่อออก แล้วเอามือลูบที่เป้าไปตามความยาวของลำค..ย
ต่อมองหน้าผมแบบสายตาอ้อนวอน "พี่ครับ...ช่วยผมหน่อย สงสัยไขควงตัวน้อยของผมมันอยากจะวัดไฟแล้วครับ"
ผมเลื่อนมือไปปลดกสางเกงต่อออก เหลือแต่กางเกงในที่มีค..ยลำยาวพาดอยู่ข้างใน แถมที่หัวค..ยก็มีน้ำเยิ้มเป็นดวง
ต่อยังคงยืนอยู่บนบันได ผมเอาลิ้นลากไปตามลำค..ย แล้ววนที่หัวค..ย
จากนั้นค่อยๆปลดกางเกงในลงมา...โอ้ว....มันดีดตัวจากกางเกงใน มาอยู่ตรงหน้าผม มันสวยมากครับ
ผมเอาปากครอบลงที่หัว...แล้วโม๊คให้ต่อแบบสุดลำโคน
ต่อครางด้วยความเสียวแถมยังกระเด้าค..ยเข้าปากผมแบบถึงคอหอยเลยครับ
ต่อจับหัวผมแล้วกระเด้าค..ย เข้าปากอย่างเมามัน
ผมเอามือลูบไล้ที่ไข่ทั้งสองใบ..แล้วเลื่อนมือสอดเข้าไปในเสื้อ แล้วไปสะกิดหัวนมของต่อ
คราวนี้ต่อเสียวหนักกว่าเดิม ต่อกระเด้า..ค..ย อย่างเต็มที่จนผมต้องเอามือดันตัวให้อย่าดันเข้ามาลึกเกินไป

ต่อเอาค..ยออกจากปากผม แล้วผมผมว่า "พี่ชอบค..ยผมมั้ย"
ผมตอบว่า "ชอบมากเลยครับ"
ต่อบอก "ถ้าอย่างนั้นผมจะมอบ ค..ยให้พี่เต็มที่เลยครับ"
ต่อลงมาจากบันได แล้วยืนประกบตัวกับผม ต่อไซร้ซอกคอ ขบรูหู
ผมเสียวจนขนลุกไปทั้งตัว ระหว่างนั้นต่อก็ค่อยๆเปลืองเสื้อผ้าของผมจนหมด
มารูตัวอีกทีผมก็ยืนตัวเปลือยเปล่าต่อหน้าต่อ
ต่อเอาค..ยเข้ามาบดขยี้กับค..ยของผม
เรากอดกันแน่น ดูดปากกันอย่างดูดดื่ม
ต่อกระซิบที่ข้างหูผมเบาๆว่า "พี่ครับ ผมอยากเอาไขควงเข้ารูจังครับ"
ผมพยักหน้ารับ...จากนั้นต่อก็มายืนประกบด้านหลังตัวผม
ต่อเอามือมาลูบไล้ตัวผมทั้งตัว เอามือบี้หัวนม บีบแก้มก้น
แต่ที่สำคัญ ต่อกำลังเอาไขควงถูที่ร่องก้นของผม
มันวิเศษมากครับ....ค..ยยาวๆถูไปตามร่อง ขึ้นๆลงๆ
ต่อกระซิบอีกครั้ง "พี่ครับ...ผมขอเอาไขควงเสียบรูของพี่นะครับ"
ผมตอบ "ได้เลยครับต่อ ช่วยวัดไฟในตัวของพี่ให้ที ว่ายังมีไฟอยู่หรือเปล่า"
พอผมพูดจบ ต่อเอานิ้วค่อยๆแยงเข้ารูผมแบบคว้านให้รูกว้าง
จากนั้นต่อก็ให้ผมยกขาข้างหนึ่งเหยียบบนบันได ต่อเอาโลชั่นที่อยู่ใกล้มือมาทาทีค..ยลแท่รูของผม
ต่อค่อยๆสอดใส่ไขควงเข้ามาในตัวผม..."โอว....ช้าๆครับต่อ พี่ไม่ได้โดนเย็..ดมานานแล้วครับ"
ต่อถาม "แล้วพี่ผมไม่ค่อยได้เอาพี่หรอครับ"
ผมตอบไปว่า "พี่ชายของต่อไม่ได้เอาพี่มานานแล้ว....ต่อรู้มั้ยพี่เงี่ยนรูมากเลย ทุกครั้งที่พี่เห็นต่อพี่ต้องกลับเอาไปฝันว่าต่อกำลังเย็..ดกับพี"
ต่อตอบกลับมาว่า "คราวนี้พี่ไม่ต้องเก็บเอาไปฝันแล้วครับ...ผมกำลังเย็..ดพี่อยู่ไงครับ ผมจะทำให้ฝันของพี่เป็นจริงครับ ผมจะเอาพี่ สมกับที่รอคอยมานานเลย ระหว่างนั้นต่อก็ค่อยๆดันไขควงเข้ามาใน ตัวผมจนสุดลำ "สุดแล้วครับพี่ ผมจะเย็..ดพี่ให้เต็มที่เลยครับ"
ต่อดึงไขควงออกมาเกือบสุดแล้วกระแทกเข้าจนสุดลำอย่างแรง จนตัวผมดอนเอนไปตามแรงกระแทก
ต่อเริ่มจากช้าๆเน้นๆ กลายเป็นเร็วขึ้น แรงขึ้น ต่อดันตัวผมให้ก้มโค้งเพื่อที่จะได้เอาได้ถนัดขึ้น
โอ้ว.....ต่อครับ.....พี่เสียวจัง
ไขควงต่อยาวใหญ่ดีครับ กระแทกเข้ารูพี่แต่ละทีพี่เสียวสะท้านไปทั้งตัวเลยครับ

แล้วพี่ชอบมั้ยละครับ.....ชอบซิ พี่อยากโดนต่อเอามานานแล้ว ต่อเอาพี่แรงๆเลยครับ
ต่อบอกผมว่า "พี่ครับเปลี่ยนท่านะครับ...ผมอยากเห้นหน้าพี่เวลาที่ผมกระเด้าไขควงเข้ารู พี่อะครับ"
ต่อหยุดกระเด้าแล้วจับผมยืดตัวตรง แล้วเราสองคนค่อยๆย่อตัวลงช้าๆเพราะต่อไม่ยอมเอาไขควงออกจากตัวผม ต่อนั่งลงและผมก็ค่อยๆหย่อนตัวตาม
แล้วผมก็กลับตัวหันหน้าไปหาต่อ ...ตอนนี้เราหันหน้าชนกัน เราดูดปากกันแล้วต่อก็ดันตัวผมให้นอนลง
ตัวของต่อเองก็จะอยู่บนตัวผม ต่อเอามือมารั้งขาทั้งสองข้างผมขึ้นไปพาดบ่าของต่อ
ต่อเริ่มเย็..ด อีกครั้ง...

โอ้ว....พี่ครับ....รูพี่ดูดควยผมจนผมเสียวไปหมดเลยครับ
พี่ยกตัวขึ้นมาดูรูพี่ดูด ค..ยผมดิคับ ผมยกหัวขึ้นมาดูแล้วพูดว่า "ของต่อก็ใหญ่มากลย คับรูพี่ไปหมดแล้ว สงสัยรูพี่จะบานแน่เลย"
ต่อโน้มตัวมากขึ้นทำให้ขาผมถูกยกสูงตามขึ้นไปด้วย
ต่อบอกว่า ผมขอเย็..ดพี่ถ้าวิดพื้นนะครับ พูดจบ ต่อก็วิดพื้นสุดตัว
"พี่ชอบคว..ยผมมั้ยคับ คว..ยผมสู้พี่ชายผมได้หรือเปล่า" ชอบซิครับ...
"ผมเย็..ดสู้พี่ชายผมได้มั้ย" ได้ครับ
"แล้วพี่จะให้ผมเย็..ดได้อีกหรือเปล่า" ได้ซิครับ ได้ทุกครั้งที่ต่อต้องการ
"พี่ครับ....ผมจะไม่ไหวแล้วครับ...." เต็มที่เลยต่อ...ออกในตัวพี่เลยนะ
"ครับ.....พี่ครับ.....โอ้ว..โอ้ว....โอ้ว...พี่เป็นเมียผมนะครับ......"
"เตรียมรับน้ำเชื้อจากผัวนะครับ...ผมจะแตกแล้วครับ...." ครับแตกมาเลยครับผัวที่รัก เมียก็ใกล้แล้วเหมือนกัน
"เมียจ๋า...ผัวไม่ไหวแล้ว..." ต่อดันไขควงจนสุดลำแล้วคาเอาไว้ ผมรู้สึกได้ถึงน้ำเชื้อที่ฉีดเข้าไปในตัวผม
พร้อมกันนั้นของผมก็แตกแบบไม่ได้แตะต้องเลย

ต่อฟุบตัวทับตัวผม"สุดยอดเลยครับ..พี่เป็นเมียแล้วนะครับ" ครับ....
ต่อยังไม่ทอนลำคว..ยออกจากตัวผม เราดูดปากกันอีกครั้ง
สักพักผมรู้สึกได้ถึงความแข็งที่อยู่ในรูผม มันขยายตัวขึ้นอีกครั้ง
ผมถาม "จะเอาอีกหรอคับ"
ต่อบอก "ครับ...ผัวเห็นหน้าเมียแล้วอยาดเย็..ดอีก"
"ได้เลยที่รัก แต่คราวนี้ต้องให้ผัวต้องเย็..ดมันส์กว่าเดิมนะ เพราะเมียชอบ"
"เมียชอบแบบไหนบอกมาซิครับ...เดี๋ยวผัวจัดให้"
"เมียชอบแบบเถื่อนๆ ดิบๆ ผัวทำได้มั้ย"
"จัดให้"
"ว่าไง อีดอกเงี่ยนมากนักหรอมึง"
"เออ กูเงี่ยน แล้วมึงจะทำไม"
"ร่านนักมึง เดี๋ยวกูจะเสพสังวาสให้รูบานเลยอีสัตว์"
"ถ้ามึงเก่งจริงก็เสพสังวาสมาเลย อย่ามัวแต่พูดอย่างเดียว"
"ท้ากูหรอมึง"
"เออ"
พูดจบ ต่อกระเด้าควยใส่รูแบบไม่ยั้ง เสียงJooที่เสียดสีกับน้ำเชื้อในรูยิ่งฟังยิ่งได้อารมร์
"เป็นไง.....ควยกูเอามันส์มั้ยมึง"
"โอ๊ะ...โอ๊ะ...โอ๊ะ....ไอ้สัตว์ มึงมีแรงแค่นี่หรอวะ"
"งั้นมึงเตรียมตัวรับความมันศ์แบบลืมไม่ลงเลยมึง กูจะเอาให้รูบานเลยอีเJim้..ย"
ต่อจบผมพลิกคว่ำ คลานท่าหมา แล้วกระแทกควยเข้าสุดลำ เอามือทั้งสองข้างจับเอวแล้วดึงเข้าหาควย
แบบได้จังหวะที่แรงและเน้น

"มึงรู้มั้ย...กูอยากเสพสังวาสมึงมานานแล้ว อีเJim้...ย ชอบส่งสายตามองควยกูนัก มึงคิดว่ากูไม่รู้หรออีสัตว์ "
"กูอุตสาห์อดใจไม่อยากยุ่งกับมึง เห็นมึงเป็นแฟนพี่ชายกู แต่มึงมันร่านควย"
"เออ....กูร่านควยโดยเฉพาะควยมึง กูแอบมองมาตั้งนานแล้ว กูชอบนึกถึงมึงเวลาที่กูช่วยตัวเอง ว่ามึงกำลังเอากูอยู่"
"คราวนี้มึงโดนกูเอาหายอยากแน่มึง"
ต่อกระแทกเร็วขึ้น แรงขึ้น เสียงควยที่ผ่านเข้าออกรู เสียงครางของผมและต่อ สอดประสานกันอย่างพอดี
ต่อพร่ำพรรณาไม่หยุด "รู้งี้กูเอามึงมาตั้งนานแล้ว ไม่ปล่อยเอาไว้มาจนป่านนี้หรอก"
"อีเJim้..ย เตรียมรับน้ำควยของกูได้เลย"
ต่อดึงJooออกจากรูมาจ่อที่หน้าผม แล้วไม่นานต่อก็พ่นน้ำควยทะลักมาบนหน้าผมเต็มไปหมด
สายน้ำเชื้อพุ่งเป็นทางยาวบนในหน้าหลายสาย เมื่อมันกระทบใบหน้าผม ผมรู้สึกถึงความอุ่น
เมื่อน้ำเชื้อหมดลง ต่อก้มลงมาดูดปากผม แล้วนอนข้างๆตัวผม ช่วยผมชักว่าว
คงยผมพอโดนมืดต่อจับมันก็ทะลักน้ำกามออกมาในทันที
ต่อถามผมว่า "เสียวมั้ยครับพี่" เสียวมากเลยครับต่อ
"เวลาที่พี่โดนเอาพี่หน้าตาหื่นมากเลยนะครับ" จะบ้าหรอ ใครกันแน่ที่หน้าหื่นกาม
"แต่ที่แน่ๆ....เมียต้องมาให้ผัวเสพสังวาสบ่อยๆนะ" ก็ถ้าอยากมากก็ช่วยตัวเองซิ
"เรื่องไร...มีเมียให้เสพสังวาสแล้วทำไมต้องช่วยตัวเองด้วยละครับ" แล้วไม่กลัวพี่ชายรู้หรอ
ไม่เป็นไรครับ.....ผมก็หลบๆมาเอาเวลาที่พี่ชายผมไม่อยู่ดิครับ
งั้นไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน ตัวเลอะไปหมดแล้ว
หลังอาบน้ำเสร็จต่อก็มาทำไฟจนเสร็จแล้วก็กลับบ้านไป
ผมเองเพลียมากเลยขอนอนสักงีบ.....

ทหารเรือสุดสมาร์ท (ก๊อป)

พออยู่ตราดได้หลายวันพี่จินกับพี่หน่อยก็พาผม กับพ่อแม่ไปเที่ยวทะเล
ซึ่งจะว่าไปก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้เล่นน้ำทะเล
ผมเลยตื่นเต้นมากๆ ที่ได้เห็นท้องฟ้า กับท้องน้ำกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา
ท้องฟ้าสีฟ้า ทะเลสีคราม เป็นคลื่นซัดสาดชวนให้ลงไปดำผุดดำว่ายเสียจริงๆ

มองลิบๆ เห็นเกาะสีเขียวเป็นก้อนเล็กๆ อยู่ปลายขอบฟ้า
ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเราเนี่ยก็แค่เล็กนิดเดียว
ชาวต่างชาติที่มาเที่ยวก็มีทั้ง คนไทย ฝรั่ง ญี่ปุ่น
แหม่มกับสาวญี่ปุ่นนุ่งแค่บิกินี่ไม่อายเหมือนคนไทย
ฝรั่งผู้ชายก็นุ่งเฉพาะกางเกงว่ายน้ำโชว์หุ่นล่ำๆ และเป้าตุงๆ

แต่ที่ผมสนไม่ใช่ฝรั่งหรอกครับ
แต่เป็นหนุ่มญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่เปลถัดจากเราไปซะมากกว่า
ญี่ปุ่นกลุ่มนี้มากัน 5 - 6 คน มีผู้หญิงแค่สองคน เป็นผู้ชายซะสี่
โดยเฉพาะผู้ชายผิวขาวน่ากัดมากๆ หุ่นก็โคดดีอ่ะครับ
น่าจะเล่นเวท และฟิตเนสเป็นประจำถึงได้หุ่นดีแบบนี้

ที่น่ามองที่สุดก็เป็นเป้ากางเกงว่ายน้ำ
ที่หนุ่มญี่ปุ่นเขาใส่ มันตุงโคดๆ อ่ะ
เฮ้อจะว่าไปก็ได้บรรยาการดีเหมือนกันเนาะ
มาทะเลแถมยังได้ดูหนุ่มหล่อหุ่นดีๆ อีก

พี่สาวกับพี่เขยก็ สั่งส้มตำ ไก่ย่าง
และพลาดไม่ได้กับอาหารทะเลเผา ซึ่งแม่จะรู้ว่าผมชอบอาหารทะเลมาก
เลยสั่งทั้งกุ้งเผา ปลาหมึกเผา และก็ปลาเผา มากินกันเต็มที่

อูย พอเห็นแล้วผมถึงกับน้ำลายสอ ฟาดเรียบ ก็ของโปรดนี่ครับ
นั่งกินกันได้ซักพักพี่นิดก็ตามมาสมทบ คนอะไรน่ามองชิหาย
ความหล่อของแกมองเห็นมาแต่ไกล
พวกฝรั่งผู้หญิงต่างมองตามตาเป็นมัน

เพราะพี่แกสเป็คฝรั่ง หล่อคมเข้ม ผิวเข้ม สีน้ำตาลไหม้
เพราะต้องอยู่กลางแดดทุกวัน ไม่เพียงหล่อคมบาดใจ
หุ่นก็สมาร์ทสมกับที่เป็นทหารเรือ
แล้วพี่นิดก็ชวนผมเล่นน้ำ
“ไปวินไปเล่นน้ำกัน”
“ครับ”

แล้วแกก็ลากผมกับห่วงยางที่เช่ามาลงทะเล เราเล่นกันแค่สองคน
พ่อ แม่ พี่สาว พี่เขย ไม่ต้องพูดถึง ไม่ได้สนใจจะสนุกแบบเราหรอก
มีอยู่ช่วงนึงระหว่างที่เล่นน้ำอยู่ผมเผลอกลืนน้ำทะเลเข้าปากคำโต
ถึงกับทำหน้าเหยเก
จนพี่นิดฮาลั่นเพราะขำสุดขีด

“หวานมั๊ยวะ...ก๊ากกก”
“หวานกะผีอะดิพี่นิด...ถุย!ๆๆ”
ผมพยามถ่มน้ำลายให้หายเค็ม แหวะ! ยังจำรสเค็มๆ ของน้ำทะเลได้จนบัดนี้
เคยได้ยินมาเหมือนกันว่าน้ำทะเลมันเค็ม
แต่ไม่คิดว่าจะเค็มได้ปานนี้ เพราะนี่ก็มาทะเลครั้งแรก

มองไปที่พี่นิดแกยังหัวเราะผมไม่หยุด
“จำไว้เลยพี่นิดอ่ะ”
“อ้าว! ข้าไปทำอะไรให้เอ็งวะ”
แกชอบแหย่ผมเป็นประจำเลย
“ถ้าพี่นิดยังไม่เลิกหัวเราะผมนะ...พี่จะโดนดี”
“กลัวคร้าบกลัวแล้ว”

แกทำท่ายียวนกวนประสาทได้น่าตีสุดๆ
แต่ด้วยความหล่อคมของพี่นิดผมเลยไม่ได้ถือสา
แต่ในหัวผมก็นึกเรื่องแก้เผ็ดพี่แกได้

ผมดำน้ำลงไปแล้วดึงกางเกงขาสั้นพี่นิดลง
แต่เสียดาย แกรู้สึกตัวซะก่อนกางเกงแกเลยลงมาแค่ตะโพก
“5555 สมน้ำหน้าอยากกวนผมดีนักนี่นา”
“เล่นอย่างนี้ใช่ไหมได้เลยไอ้น้อง”
แล้วเราก็ต่างแกล้งถอดกางเกงกันไปมาอย่างสนุกสนาน

และระหว่างที่เราเล่นกันอยู่นั้นมือผมก็ไปโดนควยแกหลายครั้ง
จนผมเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาตงิดๆ
เลยแกล้งตะปบที่เป้าแกเป็นว่าเล่น
“เฮ้ย! ไรกันวะเนี่ย พอแล้ว 5555”

แกทั้งหัวเราะทั้งว่ายหนีผม ด้วยความที่แกเป็นทหารเรือเคยชินกับน้ำ
และผมก็ไม่ใช่คนว่ายน้ำเก่งอะไรเลยยิ่งว่ายยิ่งห่างแกออกไปทุกที
“พี่นิดแกล้งกันนี่หว่า...เห็นว่าว่ายน้ำเก่งโด่”
“อ้าวก็เอ็งจะจับควยข้า...ข้าก็ต้องหนีดิ”
“5555...ที่แท้ก็ควยเล็กเลยกลัวโดนจับ”
ผมแกล้งแหย่แกและทำท่าขำๆ จนพี่นิดว่ายกลับมา

“ทหารเรืออย่างข้า...ฆ่าได้หยามไม่ได้โว้ย…ถ้าเอ็งเห็นแล้วจะแหยง”
“หยะแหยงเหรอครับพี่นิด...อิอิอิ”
“เฮ้ยพูดอย่างนี้ก็ต้องโดนแบบนี้...มานี่เลย”

แล้วแกก็เข้ามากอดปล้ำผม มีหรือผมจะสู้แรงทหารเรือร่างแกร่งอย่างแกได้
แกเอามือผมไปกำที่เป้าแกที่หยุ่นๆ มือ ผมถึงกับสั่นอ่ะ
สั่นเพราะอยากนะ 5555 แต่ปากกลับยังทำพูดดี

“โด่พี่แค่นี้เองไม่เห็นสมราคาคุยเลยอ่ะ”
“เฮ้ยก็มันยังไม่แข็งนี่หว่า...งั้นเอ็งก็กำให้มันแข็งดิแล้วจะได้รู้ว่าควย ข้าใหญ่แค่ใหนที่แน่ๆ ก็ 8 นิ้วล่ะว้า”
แกพูดด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ แต่จากการโดนพี่หน่อยเย็ดตูดมาแล้ว
พี่ยังขนาดนั้นน้องก็คงไม่ต่างกันมากนัก
“ได้เลย”

ชี้โพรงให้กระรอกแบบนี้มีหรือกระรอกจะไม่ชัก
เอ๊ยมีหรือผมจะไม่ทำ 5555

ตอนแรกผมกำแค่ภายนอกชักให้แกได้ซักพักก็รู้สึกได้ทันที
ว่าคำที่แกบอกว่า 8 นิ้วอ่ะเรื่องจริง
เพราะขนาดที่ผมกำลังจับอยู่นี่มันควยดุ้นเดียวกันกับของพี่หน่อยชัดๆ
ไข่ก็ใบโตเต็มมือ ท่อนขาก็ล่ำน่านั่งตักโคดๆ

มองที่หน้าแกโคดเอ็กส์ได้ใจสุดๆ ตาแกดูปรือๆ ปากอ้าเพราะความเสียว
“โหใหญ่จริงๆ ด้วยดิพี่นิด”
แกยิ้มอย่างภาคภูมิที่ลบคำสบประมาทลงได้

แต่มีหรือผมได้กำแล้วจะหยุดเพียงเท่านี้
ผมย่ามใจล้วงเข้าไปในกางเกงขาสั้นของแก
พี่นิดจับไว้แต่ไม่ทันซะแล้วล่ะพี่ ฮี่ๆ
“เฮ้ยอย่าพอแล้วโว้ย...อายเค้า”

แกมองซ้ายมองขวาแต่เราสองคนมาเล่นค่อนข้างลึกเลยไม่ค่อยมีคนอยู่บริเวณที่ เราเล่นเลย วันนี้คนก็น้อยด้วย
“เดี๋ยวผมเอาน้ำออกให้นะ”
ผมไม่รอให้แกอนุญาติ ทั้งชักทั้งถอกจนพี่นิดครางเบาๆ
“อืออออ...กูชักเงี่ยนขึ้นมาแล้วว่ะ”

ว่าแล้ว...ว่าแกจะขี้เงี่ยนพอๆ กับพี่ชาย โดนมือหน่อยเป็นเงี่ยน
“ว่าไงพี่ให้ผมชักต่อไหม”
“เอ้า! ตามใจมึงแต่น้ำต้องออกนะบอกก่อน”
“ได้เลยพี่นิด”
แกเลยออกความคิดเข้าไปอยู่ในห่วงยางที่ผมเช่ามา
เพื่อเป็นการบังผู้คนที่เล่นน้ำอยู่
แต่ผมว่าแทบไม่ต้องบังก็ได้ก็พวกเราออกมาเล่นไกลมาก
จนเห็นคนบนฝั่งลิบๆ
แต่เพื่อความสบายใจของแก ก็ตามใจครับ

ก็แหมแกอุตส่าห์ใจดีให้ผมเล่นควย 8 นิ้วนี่นา
ผมเลยตั้งใจว่าวให้แกอย่างสุดมือ
ยิ่งในน้ำด้วยแล้วโคตรลื่นมืออ่ะ ผมสลับกับลูบไข่และลำตัวแกไปด้วย
แกก็ไม่ได้หวงปล่อยให้ผมลูบคลำไป

“เอ็งเป็นเกย์ป่าววะวิน...โคดเก่งอ่ะตุ๊ดที่ฐานยังไม่เก่งเท่าเอ็งเลย... อือออ... ดีๆๆ ชักแรงๆ ชักไปๆ ดีข้ากำลังติดลม”
“แล้วพี่ชอบป่าวละครับ”
“ชอบดิใครว่าวให้ข้าได้ข้าก็ชอบหมดแหละ”

พูดถูกใจซะจริง ผมได้แรงใจจากแกเต็มๆ เลยให้โบนัสแกซักหน่อย
ผมอยากดูดควยแกเต็มแก่เลยดำน้ำลงไป
แล้วอ้าปากคาบควยขนาด 8 นิ้วของพี่นิด มองใต้น้ำควยแกสวยมาก
หัวบานพอๆ กับพี่หน่อย ลำก็อวบอ้วนใหญ่ยาว
ด้วยความน่ากินผมไม่รอให้พลาดโอกาสก่อนที่จะหายใจไม่ออกตายในทะเลเป็นข่าว หน้าหนึ่ง 5555

รู้สึกแต่ว่าพี่นิดจับหัวผมเข้าๆ ออกๆ คงจะเสียวจัดนั่นเอง
แต่ผมดำน้ำได้ไม่นานก็ต้องโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ
“ฮู้! เกือบตายแน่ะ”
“ดูดควยเก่งนี่หว่า ดูดอีกซิวะเร็วๆ ข้ากำลังได้ที่”
“โหพี่ผมหายใจใต้น้ำได้ก็จะทำให้นานๆ อยู่หรอก”
“งั้นข้ามีวิธีแต่เอ็งจะยอมป่าวล่ะ”
“วิธีไรอ่ะพี่นิด”

แล้วแกก็ให้ผมเข้าไปอยู่ในห่วงยางแทนแก
แล้วถอดกางเกงผมลงแค่ต้นขา อ้อที่แท้แกจะเย็ดตูดผมในน้ำนี่เอง
โด่ก็ไม่บอก คนอย่างไอ้วินน่ะได้ทุกสถานการณ์อยู่แล้วจะสะเทิ้นน้ำ สะเทิ้นบก
ขอให้บอก ถ้าหล่อๆ แมนๆ อย่างนี้ 5555

แล้วแกก็เอาขาผมให้รัดที่เอวแกไว้
โดยที่แกจ่อควยหัวบาน 8 นิ้วกดเข้ามาช้าๆ
“อูยยย...ตอนนี้ข้าเงี่ยนสุดๆ เลยว่ะ..อืมมข้าจะเย็ดน้ำแตกในทะเลนี่ล่ะว่ะไม่สนแล้วมันเงี่ยน”
“อือออเร็วๆ เถอะพี่นิดผมเสียว”

ผมรู้สึกทั้งตื่นเต้นทั้ง กลัว ตื่นเต้นเพราะถึงจะห่างผู้คนแต่ก็พอมองเห็นกันได้
กลัวก็คือ กลัวจะมีคนเล่นน้ำมาไกลแล้วมาเห็นเราเย็ดกันกลางทะเลแบบนี้
ตอนนั้มันลื่นๆ ที่รูตูด แล้วพี่แกก็กดจนมันเลื่อนเข้ามาในตูดผมจนสุดโคน
มันเข้าง่ายเพราะความลื่นของน้ำทะเล

พอโดนพี่นิดเย็ดใต้น้ำแบบนี้ก็คิดถึงพี่ป๋องที่เย็ดผมในน้ำที่บึงที่หมู่ บ้าน
เมื่อหลายปีก่อนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
ตอนนั้นจำได้ว่าโดนแกเย็ดตูดไป สามดอก มันโคดๆ
ตอนนั้นนึกว่าควยแกใหญ่สุดแล้วนะเพราะเพิ่งจะเคยมาสองครั้ง
กับพี่รุ่งแล้วก็พี่ป๋อง แต่ถึงแม้ควยแกจะไม่ได้ใหญ่เท่าพี่นิดกับพี่หน่อย
แต่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่โดนเย็ดในน้ำที่ผมประทับใจสุดๆ

พอเข้าได้แล้วพี่นิดก็กระเด้าพั่บๆ จนน้ำกระเพื่อมโยกตัวเข้าออกอย่างเมามัน
ผมน่ะเหรอนอนเอนหงายหลับตาไปกับห่วงยางแต่สองแขนยังทำเป็นเหมือนเล่นน้ำอยู่ เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย
ในขณะที่ตูดก็ปล่อยให้พี่นิดกระแทกไปตามใจแก

ด้วยความเย็นของน้ำทะลและความร้อนของแดด แถมยังมาโดนพี่นิดเย็ดตูดอีกผมเลยมีความรู้สึกหลากหลายประเดประดังเข้ามา นับเป็นความรู้สึกไม่เหมือนที่เคยๆ มาก่อน แปลกพิสดารจริงๆ 5555

“อือออ…พี่นิดครับผมเสียวววว”
“อึ้บๆๆๆ ...ข้าก็เสียวว่ะ...ควยข้าเข้าตูดเอ็งโคดรื่นเลยว่ะ...ไม่เคยรู้มาก่อนว่า เย็ดในน้ำจะมันสัดๆ แบบนี้ฮู้! สะใจกูจริงๆ อึ๊บๆๆๆ”
แกตั้งหน้าตั้งตาสวนทวารผมไปอย่างไม่ลดละ สองมือกดที่เอวผมไว้แน่น
ควยดุ้นใหญ่ก็ซอยทั้งถี่ทั้งค่อย

จนในที่สุดแกก็สุดทนทานต่อไป
“โอ๊ยยยยไม่ไหวแล้วกูจะแตกแล้วน้ำควยก็จะออกแล้วออกๆๆๆ แล้ว อ๊าซ!”
แกกระแทกป้าบๆ อีกสี่ห้าทีจนน้ำทะเลกระเพื่อมเซ็นซ่าน แล้วทะลักน้ำเข้าอสุจิเต็มตูดผม แล้วหอบแฮ่กๆ แต่สีหน้าบ่งบอกว่ามันโคดๆ

“ตูดเอ็งเย็ดมันสุดๆ เลยว่ะ...เดี๋ยวข้าขอเย็ดอีกทีได้ป่าววะ”
“ตามใจพี่นิดดิครับ”
ร่านได้ใจจริงๆ ไอ้วินเอ๊ย ผมแอบหมั่นใส้ตัวเองในใจ
“งั้นกลับขึ้นข้างบนกันเริ่มจะบ่ายมากแล้ว”
“ครับพี่”

“แล้วเอ็งห้ามไปเล่าให้ใครฟังนะโว้ยที่เราเอากัน”
“ได้เลยครับพี่”
แล้วแกก็ลากห่วงยางโดยมีผมนอนสบายเข้าฝั่ง
จะว่าไปแกก็ดีเหมือนกันนะเนี่ย ได้เย็ดผมไปแล้วรู้จักบุญคุณด้วย อิอิอิ
พอไปถึงพ่อ แม่ พี่สาว และพี่เขยก็หลับสบายอยู่ที่เปล

พี่นิดเลยชวนผมไปอาบน้ำที่ห้องอาบน้ำ
ซึ่งต้องจ่ายคนละ 2 บาท
“ไป...อาบห้องเดียวกันนี่แหละ”
พี่นิดกอดคอผมเข้าห้องน้ำห้องเดียวกัน
มองเผินๆ ก็เหมือนพี่ชายกับน้องชายทั่วๆ ไป
แต่ใครจะรู้ว่าเราเป็นมากกว่านั้น เมื่อผมเพิ่งจะโดนแกเย็ดมาหยกๆ 5555

พอเข้าห้องน้ำเราก็ถอดเสื้อผ้าอาบน้ำ
คราวนี้ได้มาเห็นหุ่นแกตอนล่อนจ้อนบนบกแบบนี้ ยิ่งโคดน่ากิน
หุ่นสูงล่ำผิวเข้ม แถมควยที่นอนสงบนิ่งก็อวบอ้วนน่ากิน
พอแกเห็นถอดเสื้อผ้าออก ก็เข้ามาบีบที่อก และคลำตูดผม

“เอ็งนี่ขาวน่าเย็ดดีว่ะ...ตูดก็งอนน่าเสยชะมัด”
ผมก็ไม่น้อยหน้าจับควยแกถอกแรงๆ จนมันแข็งสู้มือขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“พี่นิดเงี่ยนขึ้นมาอีกละซี้”
“เออซิวะก็เอ็งขาวตัวเล็กน่าเย็ดดีนี่หว่า”

เท่านั้นแหละแกก็ไซร้ซอกคอ และหน้าอกผมมีขบและกัดที่หัวนมด้วย
เล่นจนผมเผลอครางซี้ด
“อือออ...เสียวอ่ะพี่นิดผมเสียว”

แล้วผมก็แก้คืนแกบ้างโดยการนั่งคุกเข่าดูดควยหัวบานของแกเข้าปาก แต่ดูดได้แค่ส่วนหัวเพราะมันใหญ่มาก ก็ไซร้ไม่ธรรมดานี่นา ตั้ง 8 นิ้ว ใหญ่มากๆ
พอแกเงี่ยนได้ที่ก็จับผมให้หันหลังให้สองมือผมยันกำแพงห้องน้ำไว้

แล้วพี่นิดก็ค่อยๆ เอาหัวบานมุดเข้าถ้ำผม ด้วยความที่โดนมาไม่นาน
บวกกับสบู่เหลวที่เตรียมมาอาบน้ำ มันก็ยังเข้าได้ยากเหมือนกัน
เพราะไม่ได้อยู่ในน้ำ

“เข้าไปเกือบสุดแล้วว่ะวิน...อูยยย”
พี่แกพูดเหมือนกระซิบเพราะกลัวห้องข้างๆ ได้ยิน
“แน่นตูดจังพี่นิด...อืออออ...ซี้ดดดด”

แล้วแกก็ซอยผมในท่านั้นอยู่พักใหญ่ๆ แกเย็ดรุนแรงกว่าตอนเอาในน้ำซะอีก
ลีลาการเย็ดบนบกของพี่นิดรุนแรงและสะใจมากๆ
พอๆ กับพี่หน่อยเลยอ่ะครับ สองพี่น้องคู่นี้มีอะไรเหมือนกันหลายอย่าง
ทั้งรูปร่างหน้าตา นิสัย ขนาดของอาวุธ และลีลาการเย็ดที่รุนแรงปนซาดิสม์

แล้วแกก็ให้ผมคลานสี่ขา ผมรู้ได้ทันทีว่าแกจะเย็ดผมในท่าหมาแน่นอน
(เคยมาเยอะล่ะซิ 5555)
แล้วผมก็คิดไว้ไม่ผิดเมื่อพี่นิดจับหัวบานๆ ค่อยๆ กดเข้ามาในตัวผมจนมิดด้าม
“อืออออ”

ผมครางด้วยความจุกปนเสียว มันเหมือนกับว่าจะขี้ยังไงยังงั้น
แล้วพี่แกก็กระแทกเอาๆ ปากก็ครางกระเส่า
“อูยยย...ซี้ดดดด...แม่งเอ๊ยเสียวโคดๆ เลยมึง...ตูดฟิตเย็ดมันแบบนี้กูถวายหัวเลยวุ้ย!”

ความรู้สึกผมตอนนั้นทั้งสุขที่โดนทำทารุณกรรมในท่าที่ผมคลานสี่ขา
แล้วมีผู้ชายล่ำๆ มาคล่อมตัวไว้ด้านหลัง ซึ่งความรู้สึกมันซาบซ่านกินใจสุดๆ
แต่ในขณะเดียวกันก็เจ็บเข่าโคด
พี่นิดทั้งเย็ดไปมือก็ชักว่าวให้ผมไปด้วยเออจะว่าไปแกก็มีน้ำใจดีนะเนี่ย
หรือว่าเคยทำมาตอนอยู่ที่ฐานจนช่ำชองก็ไม่รู้ดิ แต่ช่างเหอะแกมีน้ำใจแบบนี้ก็ดีใจสุดๆ แล้วล่ะ

แล้วผมก็น้ำแตกออกมาด้วยฝีมือของพี่นิด มันเสียวปนสุขจริงๆ
สุขก็เพราะน้ำแตก เสียวก็เพราะมีควยดุ้นใหญ่มากระซวกตูดอยู่นั่นเอง
จนในที่สุดแกก็อดทนต่อความคับแน่นต่อไปไม่ไหวร้องครางด้วยความเสียว
“อึ๊บๆๆๆ อ่ะ อูยยยยย เสียว... กูเสียว...ใกล้แล้วๆ อ๊ะ! ...ออกแล้วอ้า!”
แสดงถึงอาการน้ำแตกของแกอีกรอบ
ซึ่งทิ้งระยะห่างกันแค่ไม่ถึง ยี่สิบนาที

“ตูดเอ็งเอามันดีว่ะ”
“พี่นิดก็เย็ดมันดีผมชอบ...แถมควยใหญ่สะใจดี”
ผมพูดไปก็จับควยที่เมื่อซักครู่ยังซอยตูดผมอยู่เลย แต่ตอนนี้มันอ่อนปวกเปียก
จนน่าสงสาร
“ว่าแล้วว่าเอ็งต้องติดใจควยข้า...ไม่ต้องห่วงตราบใดเอ็งยังไม่กลับบ้าน ...รับรองเอ็งได้กินควยข้าอีกหลายดอกแน่ๆ”

แกพูดไปก็กอดคอผมแน่น แล้วผมก็จูบปากแก พี่นิดก็จูบตอบอย่างได้อารมณ์
เฮ้อสุดยอดจริงๆ พี่นิดทหารเรือของผม

สำหรับพี่นิดนั้น พอผมโตกว่านี้ และแวะมาหาพี่สาวเมื่อไหร่
ผมไม่เคยพลาดเลย ที่จะเอากับแกก็แกออกจะหล่อคมบาดใจ
เป็นลูกน้ำเค็มขนานแท้นี่ครับ

แล้วเรารีบอาบน้ำออกไปหาพวกพี่เขยแล้วกลับบ้านกัน

พี่เขยสุดหล่อ (ก๊อป)

ตอนนั้นผม ผมอยู่ ม.3 และเป็นช่วงปิดเทอม
พ่อกับแม่ก็พาผมไปเยี่ยมพี่สาวคนเล็กที่ จ.ตราด
เพราะพี่สาวกำลังท้องเลยอยากให้พ่อแม่อยู่ใกล้ๆ
พี่เขยผมชื่อหน่อย เป็นผู้ชายที่หล่อมากๆ

คนไรวะ โคตรเซ็กอ่ะ หล่อ เข้ม แมน คม หุ่นแมนสุดๆ ผิวสีเข้มแบบลูกน้ำเค็ม เพอร์เฟ็คว่างั้นเถอะ
แกสูงประมาณ 185 เซ็นต์ ถือได้ว่าเป็นคนที่ตัวโตมาก
ผมล่ะอิจฉาพี่สาวผมสุดๆ เลยที่ได้ผัวหล่อขนาดนี้

ผม เคยแอบดูควยพี่เขยมาแล้วด้วย (ไวไฟตั้งแต่เด็ก อิอิ) แค่เห็นหุ่นแกตอนไม่มีเสื้อผ้าปกปิดร่างกายผมก็เอาไปนอนชักว่าวน้ำแตกแล้วคน อะไรหล่อแมนมากๆ แถมควยก็ยาวใหญ่ไม่ไว้หน้าใคร สมเป็นลูกตังเกโดยแท้

วันที่แกมาขอพี่สาวผม วันนั้นผมยังจำได้พี่เขยนุ่งผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำ โชว์หุ่นฟิตแอนด์เฟิร์มสุดๆ
เดินอวดสายตาเด็กน้อย 10 ขวบอย่างผม
ผมก็รีบหาช่องแอบดูซึ่งเป็นช่องประจำของผม

พอเข้าห้องน้ำได้พี่เขยก็ปลดผ้าขนหนูออกพาดไว้กับราว ว้าว! เจ๋ง
หุ่นดีโคดๆ หน้าอกมีกล้ามเป็นมัด หน้าท้องแน่นเปรี้ยะไปด้วยกล้ามสวยงาม แล้วแกก็ถอดกางเกงในสีน้ำเงินเข้ม
โอพระเจ้าจอร์จมันยอดมาก!

ควยเหรอนั่น! ขนาดยังไม่แข็งยังยาวราว 4 นิ้ว อวบกลม และหัวบานมาก
ใหญ่มากๆ น่ากินด้วยหัวเปิดบานเป็นดอกเห็ด อดอิจฉาพี่สาวผมไม่ได้
ที่ได้ให้ควยสวยๆ ใหญ่ๆ แบบนี้เย็ดทุกวัน

ดงหมอยก็สวยเป็นระเบียบดกหนาน่าชม
ไข่สองใบเป็นก้อนกลมขนาดใหญ่น้องๆ ไข่ห่าน
พอแก้หมดพี่หน่อยก็ปลดทุกข์ โอ๊ะๆๆๆ โทษทีครับ ข้ามครับข้าม 5555

แล้วกำลังจะอาบน้ำพี่เขยเหมือนมีอารมณ์ควยเริ่มแข็งขึ้นมาอย่างน่าสงสัย
สงสัยจะขี้เอาแน่เลยอ่ะ ผมคิดในใจ เพราะวันก่อนแต่งเขาห้าม
เจ้าบ่าวเจ้าสาวอยู่ด้วยกัน แกคงจะอยากอ่ะนะผมว่า

พระเจ้า! มันใหญ่ยาวมากๆ ลำอวบใหญ่สีเข้ม หัวบานสวยแดงจัด
ทำให้มันดูน่าสนใจเป็นที่สุด
ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่าขนาดของแกมันเท่าไหร่แต่รู้ว่าใหญ่โคดๆ อ่ะ
ซักพักพี่หน่อยก็ว่าวครับว่าว หน้าตาแกดูได้อารมณ์มากๆ

ความรู้สึกตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองเกิดมาเพื่อดุ้นนี้โดยเฉพาะเลยทีเดียว
แต่ยังไม่รู้จักการว่าวหรอกครับ อย่างมากก็ขยำควยตัวเองตามสัญชาตญาณ
แต่ถ้าเป็นตอนนี้น้ำแตกไปแล้ว 5555

แต่แกยังน้ำไม่ออกผมเลยต้องทำหน้าที่แอบดูต่อไป อิอิ
จนกระทั่งพี่หน่อยหลับตาปี๋ทำหน้าเหยเก ซี้ดๆๆ
แล้วน้ำแกก็พุ่งกระฉอกยังกะท่อประปาแตก เฮ้อเหนื่อยแทน
พอแกน้ำแตกก็อาบน้ำออกไป และนั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้แอบดูแก

หลังจากงานแต่งครั้งนั้นผมก็ไม่ได้พบแกอีกเลย
เพราะพี่สาวกับพี่เขยมีงานเยอะ ทั้งดูแลงานที่สะพานปลา
ทั้งงานที่ต้องดูแลสวนผลไม้ ทั้งเงาะ ทุเรียน กระท้อน อะไรประมาณนี้
จนมาวันนี้แหละที่พวกเรามีโอกาสไอ้ไปเยี่ยมแกที่ตราด

ก็พี่สาวเล่นหายหน้าไปเลยหลังจากตามสามีไปอยู่ จ.ตราด ทั้งทำสวนทุเรียนและเงาะ นอกจากนี้ พ่อพี่หน่อยยังเป็นเจ้าของเรือหลายลำ
พี่หน่อยก็ออกเรือหาปลากับพ่อตั้งแต่เด็กแต่พอแต่งงานก็ไม่ค่อยออกเรือเท่า ไหร่ (สงสัยกลัวเงี่ยนแล้วจาไม่มีที่ลง 5555)

พี่สาวก็จะส่งเงินอาหารทะเลและผลไม้มาให้ทางบ้านบ่อยๆ
พ่อก็ไปเยี่ยมพี่สาวทุกๆ ปี แต่แม่เป็นคนไม่ชอบเดินทางไกล
และผมก็ติดแม่มากเลยไม่เคยไปเยี่ยมพี่สาวที่ตราดซักที

วันนั้นพอขึ้นรถผมรู้สึกตื่นเต้นมาก
เพราะเป็นครั้งแรกที่จะได้ไปเที่ยวจังหวัดตราด
เสียดายที่พี่ชาติติดฝึกงานเลยไม่ได้ไปด้วยกัน (ต้องเข้าใจตอนนั้นกำลังติด อิอิ)
เลยทำให้ใจนึงก็ไม่อยากไปเท่าไหร่อยากอยู่กกไข่เอ๊ย!
อยากอยู่กกพี่ชาติมากกว่า 5555

ก็แหมต้องเข้าใจนะครับ ตอนนั้นกำลังวัยรุ่น
พอมีของมาให้เล่นให้ลองให้ดูดให้อมแบบนี้ใจมันเลยตัดยาก
แถมพี่ชาติก็ทั้งหล่อทั้งเอาเก่งแบบนี้ เป็นใครไม่ติดก็ให้มันรู้ไปล่ะ

นับเป็นครั้งแรกก็ว่าได้ที่ผมได้ไปแถบจังหวัดทางภาคตะวันออก
เห็นแต่ในแผนที่กับรูปถ่ายในหนังสือ แล้วก็รูปภาพที่พี่สาวส่งมาให้
เลยค่อนข้างตื่นเต้นเอามากๆ
จนพ่อกับแม่อดหัวเราะท่าทีผมไม่ได้
“สงสัยไอ้วินมันจะชอบเที่ยวนะแม่”
แม่ก็ไม่พูดอะไรได้แต่ยิ้มๆ

พอเราไปถึงสถานีขนส่ง พี่สาวกับพี่เขยก็ขับรถกระบะมารับ
พี่จินพี่สาวผมคล้ำกว่าเดิมอวบและมีน้ำมีนวลแบบคนตั้งท้อง
คงเพราะอยู่ดีกินดินั่นเอง

ส่วนพี่เขยผมผ่านไป 5 ปีก็ยิ่งหล่อและเข้มกว่าเดิมแมนและเซ็กซี่กว่าเดิม
ซะอีก หล่อลากใส้จริงๆ ครับ
ครับผมคิดอย่างนั้นจริงๆ ผู้ชายห่าไรวะ แม่งหล่อน่าให้เย็ดโคดๆ


พี่เขยมีบ้านสองหลัง ที่สวนผลไม้หลังนึงกับริมชายทะเลหลังนึง
แต่พี่เขยกับพี่สาวพาเราไปพักที่บ้านสวน เพราะอากาศเย็นสบาย
ด้านหลังเป็นสวนเงาะ ทุเรียน รวมไปถึงสวนกระท้อนด้วย

พี่หน่อยมีน้องชายอยู่คนชื่อพี่นิด หน้าตาคลับคล้ายคลับคลา
หล่อลากใส้ทั้งพี่ทั้งน้องจริงๆ ผมคันที่หัวใจสุดๆ 5555

พี่นิดแกเป็นทหารเรือ วันนั้นเจอแกในชุดทหารเรือฟิตเปรี๊ยะ
เป้างี้นูนเด่นออกมาจนน่าลูบ ถ้าใครเคยเห็นทหารเรือใส่ชุดฟอร์มจะจินตนาการออก เพราะเขาจะใส่รัดเป้ามากๆ ผมล่ะชอบชุดของเขาซะจริงๆ
มองแล้ว อึ้ง ทึ่ง และเสียวเป็นที่สุด

มาตราดคราวนี้นับเป็นบุญตาจริงๆ ครับ
บ้านนี้ทำบุญด้วยอะไรเนี่ย ถึงได้ควยใหญ่กันทั้งบ้านเลย 5555
พี่หน่อยลูบหัวผมด้วยความเอ็นดู ดูแกเป็นกันเองกับผมมากๆ ครับ

“เป็นไงวิน บ้านพี่สาวเอ็งพออยู่ได้ไหม”
“น่าอยู่ดีครับพี่... เย็นสบายดี แล้วสวนผลไม้เนี่ยของพี่หน่อยหมดเลยเหรอ”

“ใช่แล้วจนสุดที่ตีนเขานั่นแหละ เย็นๆ อากาศไม่ร้อนก็ถีบจักรยานไปเล่นดิ”
“เจ๋งไปเลยพี่...ผมทำแน่ๆ แล้วนี่สวนผลไม้เยอะขนาดนี้พี่หน่อยดูแลได้ไงอ่ะ”
“เราจ้างคนงานดูแล ประมาณ 10 คนได้ ก็เป็นคนแถวนี้แหละเห็นกันมาตั้งแต่เด็กไม่งั้นคงไม่มีเวลาไปหาปลา”

ผมก็เลยเข้าใจ ณ บัดนี้
ก็บ้านนี้เขาทำทั้งสวนผลไม้และทำประมงควบคู่กันไป
คือประมาณว่าแม่ของพี่หน่อยทำสวนผลไม้ ส่วนพ่อเป็นครอบครัวประมง
พอถึงรุ่นพี่หน่อยกับพี่นิด ก็ไม่ได้ทิ้งอาชีพใดอาชีพนึง

ทำทั้งสองอย่างและดูท่าจะไปได้ดีทั้งสองทางซะด้วย
พี่นิดเองพอหยุดเสาร์อาทิตย์ก็จะมาช่วยพี่ชายดูแลทั้งสวนผลไม้
และที่สะพานปลา
ขยันทำมาหากินทั้งพี่ทั้งน้องจริงๆ

วันแรกก็ด้วยความเหนื่อยจากการเดินทาง
พอกินข้าวเย็นเสร็จผมจึงหลับเป็นตายไม่ได้ไปปั่นจักรยานอย่างที่ตั้งใจไว้
พอตื่นเช้ามาแม่กับพี่สาวก็ไปธุระที่ตัวจังหวัด
ก็คงจะไปหาซื้อของทำบุญมั้ง

พอลงมาข้างล่างก็เห็นพ่อ พี่หน่อย พี่นิด
และก็ผู้ชายอายุประมาณ ยี่สิบกว่าๆ อีกสามคน กำลังนั่งก๊งกัอยู่
นี่เอาตั้งแต่เช้าเลยเรอะ ผมคิดในใจ

ด้วยความงัวเงียเลยไม่ได้ใส่ใจ พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ
ก็หาข้าวกิน แล้วก็ออกมานั่งดูทีวี โดยที่ไม่ไกลนักมีวงเหล้าวงใหญ่
ส่งเสียงเฮฮาคุยกันอย่างออกรส

เฮ้อ! พอกันทั้งพ่อตา ทั้งลูกเขย
นั่งๆ ดูทีวีไป หูก็แว่วๆ เหมือนกับพี่หน่อยจะคุยเรื่องผม
“ไม่เห็นไอ้วินมันหลายปี ปีนี้โตขึ้นเยอะนะพ่อหน้าตาดีซะด้วย แบบนี้สาวๆ คงติดตรึม”
“ปีนี้มันก็ 15 ย่าง 16 แล้วล่ะ ฮู้ยไอ้คนนี้เรอะมันจะมีสาวที่ไหน...วันๆ เอาแต่เล่นเป็นเด็กๆ ตะลอนๆ ไปทั่ว...ไม่ไปกับเพื่อนมันก็ไปเล่นในโรงงานโน่น”
พอได้ยินคำว่า “โรงงาน” ผมถึงกับเสียวสันหลังวาบ!
แหมพ่อก็ ในโรงงานมีอะไรน่าเล่นนี่นา อิอิ

“วินมึงมานี่ซิมารู้จักพี่ๆ เขาหน่อย”
นั่นคือเสียงสั่งการของพ่อผมที่เริ่มอ้อแอ้ด้วยฤทธิ์เหล้า
ผมก็ไม่ได้ขัด เข้าไปไหว้บรรดาพี่ๆ เขา
ก็มีพี่เข่ง พี่อุ่น และพี่เจต พี่เข่งกับพี่อุ่นมีเมียและลูกแล้ว
บ้านก็ไม่ได้ไกลจึงทำงานแบบเช้ามาเย็นกลับ

ส่วนพี่เจตแกเป็นคนดูซื่อๆ และบ้านแกก็อยู่ไกลอีกอำเภอ
พี่เขยเลยให้นอนที่กระท่อมในสวนกับเพื่อนอีกคนซึ่งเป็นคนบ้านเดียวกัน
แต่แกไม่ได้มากินเหล้าด้วย

พี่ทั้งสามคนหน้าตาก็บ้านๆ แต่พี่เจตจะหน้าดีกว่าพี่สองคน
หน้าคมๆ ผิวเข้มๆ และหุ่นแน่นๆ ล่ำบึ๊ก
พี่เจตเป็นน้องพี่เข่งกับพี่อุ่น 4-5 ปี
อายุน่าจะรุ่นพี่นิด ก็ประมาณ 21-22 ปี

ผมก็เลยได้ทีไม่ไปไหนแล้วทีนี้ อิอิ
นั่งเติมเหล้าให้บรรดาคอทองแดงทั้งหลายด้วยความสมัครใจ
ก็มีแต่คนน่ามองนี่นา ข้างขวาก็พี่เขยสุดเซ็ก กับพี่นิดสุดหล่อ
ตรงข้ามก็มีหนุ่มชาวไร่หุ่นแน่น มองที่ต้นขาดิ อื๋ยยย
ขาใหญ่แน่นเปีร๊ยะ! เป้ากางเกงยีนส์ก็ใหญ่ คิดแล้วเสียวอ่ะ
แต่สมองตอนนั้นไม่รู้จะหาทางสนิทสนมกับแกยังไง
เพราะดูแกเป็นคนเงียบๆ ซื่อๆ ไม่ค่อยพูด
แต่คนอย่างผมไม่สิ้นหนทางแน่นอน

เลยทำเป็นอยากเรียนรู้งานในไร่ ว่าต้องดูแลผลไม้ยังไงให้ออกดอกออกผลตามที่เราต้องการ
การใส่ปุ๋ยการดูแลพวกศัตรูพืช อะไรพวกนี้
พี่แกก็ให้คำตอบได้ดี และเข้าใจง่ายแบบภาษาบ้านๆ

พี่นิดเห็นผมดูจะสนใจการทำสวนผลไม้มากเลยแซวขำๆ
“เฮ้ยวินสนใจแบบนี้ก็มาอยู่ที่นี่ซะเลยซิ”
“นั่นดิมันถามยังกะมันจะไปทำจริงจัง”
ดูพ่อผมดิไม่เคยเล้ยจะเข้าข้างลูกตัวเอง

ผมก็ได้แต่นั่งยิ้มๆ ไม่กล้าถามมากแล้ว
พี่หน่อยเห็นผมคงจะเขินที่โดนแซวเลยหาทางออกให้
“ถ้าเอ็งสนใจก็ไปเล่นที่สวนได้นี่ แล้วให้พี่เขาสอนว่ามันทำยังไงบ้าง
ความรู้พวกนี้รู้ไว้ก็ไม่เสียหลาย...เผื่อสักวันเอ็งอาจจะได้ทำมาหากิน”

พี่นิดก็หันมาถามผม
“ว่าไงล่ะเอ็งสนไหม”
“สนพี่สนงั้นวันนี้ผมไปดูพวกพี่เขาทำงานนะ”
“ตามใจเอ็ง”
พี่หน่อยว่า

สักพักนึงพี่สามคนก็กลับเข้าไปในสวน ผมก็เลยขอตามไปด้วย
โดยนั่งรถมอเตอร์ไซค์พ่วงด้วยรถเข็น

อากาศก็ไม่ได้ร้อนมากเพราะร่มรื่นไปด้วยสวนผลไม้
บ้านที่พี่เจตกับเพื่อนพักสร้างอยู่ไม่ไกลจากบ้านพี่เขยเท่าไหร่
ถ้าปั่นจักรยานก็ยังไม่ทันเหนื่อย
พอไปถึงก็เจอกับพี่ทิม เพื่อนพี่เจตที่พักอยู่ด้วยกันกำลังออกมาจากระท่อมพอดี

ผมมองแกไม่วางตา ก็พี่แกหน้าตาดีกว่าเพื่อนแกอีกนะนั่น
ผิวเข้มพอกันด้วยตากแดด แต่หน้าตาดูหล่อกว่า แต่หูตานี่ไม่ธรรมดาเลย
บ่งบอกว่าเป็นคนเจ้าชู้ทีเดียว
แต่แบบนี้อ่ะผมชอบ ยั่วยวนแบบนี้แหละเจ๋ง

“อ้าว! พาใครมาด้วยล่ะพี่เข่ง”
เสียงเข้มๆ สำเนียงเหน่อนิดๆ แบบชาวบ้านถามรุ่นพี่
“อ้อ นี่น้องเมียนาย ชื่อคุณวิน พอดีเขาอยากมาดูพวกเราทำสวนเลยขอตามมา”
พี่ทิมมองผมแล้วยิ้มๆ ว้าว! ยิ้มแล้วหล่อชะมัดอ่ะ
เนื้อเต้นเลยผม อิอิ

“ได้ยินพี่เขยบอกว่ามีคนงานสิบกว่าคนหายไปไหนหมดครับเนี่ย”
“อ้อ...ถ้าช่วงนี้ไม่ถึงสิบหรอกครับคุณ...แต่ถ้าเป็นหน้าผลไม้บางปีอาจจะ มากกว่าสิบซะอีก...ช่วงนี้พวกนั้นก็ไปทำงานรับจ้างอย่างอื่นกัน”
“อ้อเหรอครับ”
ผมรับอย่างเข้าใจ

แล้วพี่สี่คนก็พาผมเข้าไปนั่งเล่นที่แคร่ไม้ไผ่หน้ากระท่อม
แล้วหาน้ำมาให้ผมกิน

“ไม่ต้องลำบากก็ได้... พวกพี่ทำงานตามสบายเถอะครับ”
แล้วพวกพี่เขาก็ทำงานไป ผมก็เข้าไปดูใกล้ๆ โดยเฉพาะพี่ทิมกับพี่เจต
แล้วทำทีเป็นสนใจในงานที่พวกพี่เขาทำ
ผลไม้ช่วงนี้กำลังใกล้จะเก็บได้แล้ว ทั้งทุเรียน เงาะ และกระท้อน
กำลังงาม เต็มพวงเต็มช่อ ดูน่าชม

ผมขลุกอยู่ในสวนจนหิวข้าวแต่ไม่อยากรบกวนพวกพี่ๆ เขา
เลยขอตัวกลับโดยยืมจักรยานของพี่เจตปั่นกลับเอง
พอมาถึงบ้านก็เงียบเชียบ ที่แท้เมาหลับกันนี่เอง

ต่างคนต่างหลับเป็นตาย และแล้วสันดานร่านของผมก็แล่นปรี้ด!
ขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วน มองไปที่พี่เขยสุดหล่อก็นอนบนพื้น
หงายอ้าซ่า เป้ากางเกงบอลนูนเด่นเพราะควยใหญ่มันเก็บไม่มิดน่ะซิ

เช่นเดียวกันกับน้องชายที่ขนาดไม่เป็นรองพี่ชาย
เออบ้านนี้เขาตั้งชื่อเอาเคล็ดรึปล่าวนะ ตั้งนิดๆ หน่อยๆ
แต่ควยอย่างใหญ่ 5555

ส่วนพ่อผมน่ะเหรอนอนบนโซฟาหันหน้าเข้าในไม่สนใจฟ้าฝน
ตามปกติของแกเวลากินเหล้า

ความอยากมันกระตุ้นจนผมไม่สามารถอดทนต่อไปได้
เลยเข้าไปนั่งใกล้ๆ พี่หน่อย ที่นอนอ้าซ่าควยตุงเต็มเป้า
หน้าอกแน่นๆ กระเพื่อมขึ้นลงบ่งบอกว่าหลับอย่างสบาย

ผมลองเขย่าตัวพี่เขยสุดหล่อ ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆ
เขย่าอีกรอบก็นอนสงบนิ่งมีเพียงเสียงลมหายใจเบาๆ
ที่พ่นออกมาพร้อมกลิ่นอายเหล้า
แต่ก็หอมและเซ็กซี่กระตุ้นอารมณ์ทางเพศให้ผมได้ดีแท้ๆ

ยอมรับเลยว่าตอนนั้นเป็นอะไรที่ตื่นเต้นโคดๆ
ก็เล่นแอบลักหลับตอนกลางวันแสกๆ นี่นา
ในที่สุดมือผมก็ตะปบที่เป้ากางเกงบอลของพี่เขย มันเต็มมือมากเล่นเอาผมมือสั่น ใจเต้นแรง ตุ๊บๆๆ


ผมลูบที่หน้าท้องพี่หน่อยที่แน่นไปด้วยกล้าม แล้วเรื่อยไปที่หน้าอกแน่นๆ
รวมทั้งกล้ามแขนและกล้ามขา มันช่างน่าจับไปเสียทุกส่วนสัดก็ว่าได้

แล้วมือผมก็วนกลับมาที่เป้ากางเกงที่ตุงโคดๆ ของแก ผมคลำเป้าแกด้วยมือที่สั่นๆ ทั้งสั่นเพราะอยาก และสั่นเพราะกลัว(ตีน) 5555
พอโดนมืออาชีพอย่างผมเข้ามันเลยแข็งปั๋ง โอ้! หัวใจจะวาย
ทำไมมันถึงได้ใหญ่อย่างนี้เนี่ย 8 นิ้วจริงๆ ครับท่าน

ผมใจร้อนรีบควักมันออกมาชมโลกภายนอก
ว้าว! เป็นอวัยวะเพศชายที่เราเรียกว่า “ควย” ที่สวยมากๆ
หัวบานทะโล่สีคล้ำๆ ดูอลังการแก่สายตาผมมาก
ที่รูมีน้ำเยิ้มออกมาบ่งบอกว่าอยากน้ำแตก อิอิ

ผมชักขึ้นลงเหมือนคนบ้าเลยก็ว่าได้ แล้วในที่สุดผมก็ทนไม่ไหว
รีบก้มลงดูดทันทีก่อนจะพลาดโอกาสอันงามนี้ไป
ผมบ๊วบได้ไม่กี่ทีพี่หน่อยก็เผลอครางออกมาเบาๆ
“อืมมมมม”
ผมต้องรีบผงะออกมาอย่างตกใจ แต่แกก็ยังไม่ตื่นผมเลยดูดต่อ
แต่คราวนี้ผมดูดได้ไม่นานพี่เขยก็ตื่นแกจับหัวผมออกจากควยใหญ่ของแก

“เฮ้ย! วินทำอะไรว่ะ”
แกถามหน้าตาดุๆ ปนตกใจ แต่ผมสิตกใจมากกว่า
ผมอ้าปากค้าง พูดไม่ออก ไม่คิดว่าแกจะตื่นขึ้นมาได้เพราะคิดว่าแกเมามาก
เลยใส่เต็มที่แบบไม่ยั้ง

“เฮ้ยมึงเป็นตุ๊ดเหรอวะ”
“ปะๆๆ ป่าวๆๆคับ”
ผมพูดตะกุกตะกักแต่ก็ได้แค่นั้นไม่มีคำใดออกมาจากปากผมได้
ได้แต่ก้มหน้ามองที่พื้นกระเบื้อง กลัวจนตัวสั่น

พี่เขยก็ไม่ถามต่อ หน้าตาแกดูเอาเรื่องน่าดู เพราะปกติแกก็ไม่ใช่คนยิ้มแย้มอะไร
ดูดุๆ ด้วยซ้ำ แต่ยิ่งมาอยู่ในสภาวะแบบนี้แกยิ่งดูน่ากลัวมากๆ
นี่ถ้าแกเอาเรื่องที่ผมแอบดูดควยแกไปเล่าให้พี่สาวผมฟังล่ะก็ผมตายแน่ๆ
แล้วพี่เขยก็เก็บควยเข้าที่ มองไปทางพ่อผมกับน้องชายแกที่หลับเป็นตาย

“กูเพิ่งรู้นะเนี่ยว่ามึงชอบดูดควย...อย่าไปทำที่ไหนอีกเชียวมึง...ถ้าคนที่ เขาไม่ชอบพวกตุ๊ดล่ะมึงเป็นโดนตีนแน่ๆ... มีควยเอาไว้เย็ดหีไม่ชอบชอบให้เขาเย็ดตูด”

แกพูดให้ได้ยินแค่สองคน ดูแกสร่างเมาขึ้นมานิดๆ
ผมยังคงก้มหน้าพูดอะไรไม่ออก ภาวนาอยากให้ผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปให้เร็วที่สุด

แล้วพี่หน่อยก็เดินไปห้องน้ำ แต่ก่อนที่แกจะถึงห้องน้ำแกก็หันมาเรียกผม
“มึงมานี่หน่อยซิ”
ผมรีบเดินไปด้วยกลัวความผิด แล้วพี่เขยผมก็ผลักผมเข้าไปในห้องน้ำ
พร้อมกับปิดประตู เล่นเอาผมตกใจ
นี่แกจะเตะผมใช่ไหมเนี่ย ตายแน่ล่ะกู (กลัวจนเหงื่อตก)

แต่ขอบอกว่าไม่ใช่ 5555
พี่หน่อยกอดอกพิงผนังห้องน้ำด้วยท่าทีเข้มๆ
“จะว่าไปแล้ว...เวลากูกินเหล้าแล้วเงี่ยนประจำ.... ดีเหมือนกันกูไม่ได้เย็ดเมียกูมา....เกือบเดือนแล้ว....มึงมาดูดควยให้กูก้อ ดี... แต่กูให้ดูดควยแล้ว...อย่าริเอาไปเล่าให้ใครฟังล่ะโว้ยยย!”
“ไม่บอกใครครับพี่... ผมไม่บอกแน่นอน”

ผมค่อยโล่งอกหน่อยที่ไม่โดนเตะเอา
แถมยังโชคดีได้ดูดควย 8 นิ้วของแกอีก
พี่เขยผมถอดกางเกงลงที่พื้น พร้อมกางเกงใน ควยแกแข็งรอท่าอยู่แล้ว
หัวบานเบอะของแกมันชี้หน้าท้าทายผม

ผมนั่งลงที่พื้นห้องน้ำ จนควยใหญ่ๆ ทิ่มหน้าแล้วจับควยพี่เขยด้วยมืออันสั่นเทา
ผมชักให้แกทั้งสองมือ เพราะมือเดียวกำแทบไม่รอบ
ผมชักว่าวให้แกไปได้ซักพักพี่หน่อยก็จับหัวผมให้ดูดควยแก
“เลิกถอกได้แล้ว...ดูดควยดีกว่า”

ผมจึงอ้าปากดูดหัวบานๆ เข้าปากมันเต็มปากเต็มคำโคด ๆ
รสหัวบาน 8 นิ้วช่างอร่อยปาก มีกลิ่นสาปของผู้ชายปนกลิ่นเหล้า
พี่หน่อยซี้ดปากด้วยความเสียว หน้าตาแกตอนเสียวยิ่งโคดเซ็กส์อ่ะ
“ซี้ดดดด”

“ดูดเก่งเหมือนกันนี่มึง... เออนั่นซี้ด! เยี่ยม เสียวสัดๆ... ว่ะ แม่งงเอ๊ย!...ตั้งแต่กูออกจากทหาร...กูก็ไม่ได้ให้กระเทยดูดควยให้เลย... แม่งมึงนี่ดูดได้เสียวจริงๆ
...ไม่ต้องลีลานักเดี๋ยวพี่กับแม่มึงมาก็อดกันพอดีรีบๆ ดูดดีกว่า”
แล้วแกก็กดหัวผมดันเข้าดูดควยแกเร็วขึ้นๆ จนผมสำลัก

แต่ด้วยความมโหราฬของ ขนาด 8 นิ้ว
ผมไม่สามารถเอาเข้าปากได้หมด แถมพี่เขยก็เร่งยิกๆ
แต่น้ำแกก็ไม่ยอมแตกซะที แกคงไม่ทันใจ

“แบบนี้คงออกยากว่ะ... เวลากูเมาน้ำโคดออกยาก... ต้องเย็ดเท่านั้นถึงจะออก
มึงจะยอมให้กูเย็ดตูดได้ไหมวะ…น่านะมึงก็ชอบนี่...ทำต้องทำให้ครบสูตร
ดูดควยแล้วก็ต้องโดนเย็ดตูดด้วยถึงจะมัน”

“แล้วแต่พี่หน่อยเถอะครับถ้าทำให้พี่หน่อยน้ำออกได้” ตอแหลเข้าไป
“เออพูดง่ายๆ แบบนี้ดีแล้ว...แล้วกูจะให้ได้ดูดควยบ่อยๆ... ยิ่งช่วงนี้พี่มึงกำลังท้องกูละโคตรเงี่ยน... แต่พี่มึงก็ไม่ยอมให้กูเย็ดอ้างว่าไม่มีอารมณ์”
พี่เขยแกบ่น ให้ผมฟังเรื่องความทุกข์ร้อนของแก

แล้วแกก็ถอดกางเกงผมลง แล้วจับผมโก้งโค้งตูดโด่ง มือจับที่ขอบอ่างน้ำ
“เจ็บหน่อยนะมึง...แต่พอโดนสักทีสองทีมึงจะชอบโดนเย็ด…แต่ว่าก็ว่านะมึงนี่ ตูดสวยว่ะผิวก็เนียนดีจิงๆ แบบนี้กูชอบ”

ผมไม่พูด ปล่อยให้แกเอาสบู่ละเลงกับน้ำแล้วมาทาที่ควยแกแล้วก็รูตูดผม
ตอนนั้นก็ท่องยุบหนอพองหนอในใจ ก็ตั้งแต่เกิดมาก็จะโดน
ควยขนาด 8 นิ้วเย็ดก็วันนี้แหละ

พอได้ที่แกก็ยัดหัวบานๆ เข้ามา มันค่อยๆ เลื่อนผ่านหูรูดมาอย่างช้าๆ
เพราะความลื่น ผมจุกจนกัดฟันแน่นหลับตารับความใหญ่
ความที่เคยโดนเย็ดมาแล้วเลยช่วยได้บ้างทำให้ไม่เจ็บมาก

“เจ็บครับพี่หน่อย เบาๆ”
“อูยก็ตูดมึงฟิตชิหายนี่หว่า...อูยยย อย่าเกร็งสิวะ...ให้มันเข้าให้หมดก่อน...
แม่งตูดฟิตชิหาย ฟิตกว่าพี่มึงอีก...แน่นว่ะสัดเอ๊ย...อู้ๆๆๆ เข้าไปเกือบสุดลำแล้ว ...อึ๊บๆๆๆ”

“พี่หน่อยพอก่อนผมเจ็บพี่”
“อย่างอแงสิวะ! ทีอย่างนี้จะมาร้องเจ็บ ทีตอนดูดควยกูล่ะไม่ร้อง หุบปากไปเลย...อูยยยยเข้าไปเกือบสุดแล้ว อึ๊บๆ สุดๆๆ แล้วอ๊า! แน่นมากๆ เลยว่ะ ฟิตสัดๆอูยยยกูเสียวหัวควย...ตูดมึงรัดควยกูคับติ้วเลย”

แล้วพี่เขยก็กระเด้าป้าบๆ ๆ ๆ จนผมหัวยอกหัวคลอน
แม่งซาดิสม์ชิหาย ผมจำได้ว่าผมร้องครางออกมาดังมากๆ
ไม่รู้ใครได้ยินหรือเปล่า ดีหน่อยที่ไม่มีใครอยู่บ้านนอกจากพ่อ
กับน้องพี่เขยที่หลับอยู่ข้างนอก

หัวผมโยกคลอนไปตามแรงกระแทกของแก
มือแกก็กดที่เอวผมแน่นจนเจ็บไปหมด
แกทั้งเคล้นที่แก้มก้น และหน้าอกผมจนเจ็บแสบไปทั้งตัว
แต่ผมกลับชอบการกระทำเถื่อนๆ ของแกนะมันสะใจดี

แกเย็ดผมอึดและทนมากๆ ตั้งแต่โดนเย็ดมาครั้งนี้รุนแรงสุดๆ
เท่าที่ผมเคยโดนมา ทั้งสะใจทั้งเจ็บระบมไปหมด
แต่ผมก็สะใจกับลีลาการเย็ดที่ทรหดของแกเป็นที่สุด

แกเย็ดไปก็ไซร้ที่ซอกคอผมไป บ้างก็ขบกัดที่ซอกคอและติ่งหู
เล่นเอาผมเคลิ้มสุดๆ
แล้วแกก็เปลี่ยนท่าเป็นอุ้มผมขึ้นไปทั้งตัว ในท่าอุ้มแตง
ท่านี้บอกได้ถึงพละกำลังที่แกมี เพราะตัวผมก็หนักตั้ง 50 กิโล
แต่แกก็กระแทกในท่านี้อยู่ได้ตั้งนาน
สองแขนผมก็กอดรอบคอแกด้วยความเสียว

“อือออออ...พี่หน่อยผมเสียวววว”
“ดีกูก็เสียวววควยยยย...มันชิหายว่ะอูยยยย”

จนผ่านไปร่วมชั่วโมง พี่หน่อยก็เปลี่ยนท่าเป็นให้ผมนอนหงาย
แล้วยกขาผมพาดบนบ่าแล้วโถมน้ำหนักตัวทั้ง
เกือบ 80 กิโลลงมาที่ตัวผมจนผมรู้สึกทั้งเจ็บและสะใจโคดๆ
สองแขนที่แน่นไปด้วยกล้ามใหญ่ค้ำยันไว้ข้างตัวผม
แล้วใส่แรงกระแทกควยด้วยความเมามัน
พี่แกเร่งเอวเร็วขึ้นๆ สวนควยดุ้นยักษ์กระเด้าพั่บๆๆๆๆ

ผมเสียวจนชักไม่กี่ทีก็น้ำแตกออกมาอย่างมากมาย
ด้วยความคับที่ผมขมิบตอดทำให้หัวควยแกเสียวจนทนไม่ได้อีกต่อไป

“โอ้ววว! กูไม่ไหวแล้วอาๆๆๆ กูจะแตกแล้ว...น้ำควยกูแตกแล้ว แตกแล้วอ่าอ้า!”
ผมรู้สึกถึงความอุ่นวาบๆ ในตูดผม น้ำแกมันคงเยอะน่าดู
เพราะมันยังใหลย้อยออกมานอกตูดผมด้วย
พี่หน่อยคล่อมตัวผมบนพื้นห้องน้ำ หอบแฮ่กๆ

“มึงนี่เยี่ยมไปเลยว่ะวิน...เย็ดมันโคดๆ... แบบนี้ก่อนมึงกลับบ้าน...กูขอเย็ดมึงอีกได้ป่าววะ”
“แล้วพี่หน่อยไม่กลัวพี่ผมรู้เหรอ”
ผมแกล้งทำเป็นถาม ทั้งที่ใจอยากโดนอีกจะตาย

“เรื่องนั้นเดี๋ยวกูจัดการเอง...ว่าแต่มึงจะยอมให้กูเย็ดอีกมั๊ยล่ะ...เจอ ขนาด 8 นิ้วของกูเข้าไปแบบนี้...น่ากูรู้ว่ามึงชอบ”
“งั้นก็...แล้วแต่พี่ดิครับ”
ผมกอดคอพี่หน่อยให้โน้มลงมาจูบปากผม แกก็ไม่ปฏิเสธ
เราแลกลิ้นกันผมจนพอใจ แล้วเราก็อาบน้ำออกไป
พอออกมาข้างนอกพ่อกับพี่นิดก็ยังหลับอยู่เลย

แกมาเล่าให้ผมฟังทีหลังว่าตอนแกเป็นทหารเรือเมื่อหลายปีก่อน
ตอนฝึกๆ อยู่ด้วยความหล่อไม่เกรงใจใครก็มีตุ๊ดหลายคนมาชอบ
แกก็ขี้เงี่ยนอยู่ด้วยเลยได้ที่ระบาย สบายควยไป

หนุ่มชาวสวน (ก๊อป)

วันต่อมาในตอนค่ำๆ หลังกินข้าวเย็นเสร็จ
ผมก็ปั่นจักรยานออกไปเล่นท้ายไร่
บรรยากาศตอนเย็นๆ สดชื่นดีจังผมสูดอากาศเข้าปอดอย่างสบายใจ
มองไปเกือบสุดตาเห็นภูเขาอยู่ลิบๆ สวนผลไม้สุดลูกหูลูกตา
ตามกิ่งก้านก็ออกผลดกเต็มต้น

พี่เจตกับพี่ทิมเล่าให้ฟังว่าการจะให้ได้ผลผลิตที่ดี
ต้องไม่ปล่อยให้ไม้ออกผลดกเกินไป จะทำให้ต้นโทรมต้องตัดบางส่วนออก
เพื่อที่ผลจะได้สวยและมีน้ำหนักดี จะทำให้ได้ราคาดีไปด้วย

นี่เดี๋ยวจะหาว่าผมเล่าแต่เรื่องร่านๆ เซ็กๆ
แต่ในความเป็นจริงผมก็ยังมีความรู้ดีๆ มาฝากด้วยนะจะบอกให้
ที่สวนพี่เขยจะใช้ปุ๋ยชีวภาพ เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อคนปลูก
และผู้บริโภค ตรงนี้น่านับถือน้ำใจพวกพี่ๆ เขามากเลยนำครับ

พอนึกถึงพี่เจตกับพี่ทิมขึ้นมาได้ หัวผมก็คิดเรื่องดีดีได้อีก อิอิ
ให้ทายว่าผมจะทำอะไรต่อไป….
ผมรีบปั่นจักรยานคันที่ยืมพี่เจตมา
บึ่งไปที่กระท่อมที่พักคนงานพี่สองคนทันที
พอไปถึงก็ไม่เห็นพวกพี่เขาอยู่หน้ากระท่อม


แต่ได้ยินเสียงคนกำลังอาบน้ำอยู่หลังบ้าน และเสียงพูดคุยกันสนุกสนาน
แบบนี้พี่สองคนก็ต้องกำลังอาบน้ำอยู่แน่เลย โฮะๆๆ ได้การล่ะ
เนื้อตัวผมเต้นขึ้นมาด้วยความร่านสุดๆ

แล้วทำทีเป็นเดินเข้าไปอย่างไม่ตั้งใจ ภาพที่เห็นทำเอาผมตกตะลึง
เป็นภาพผู้ชายหุ่นแน่นไปด้วยกล้ามเป็นมัดๆ
เปลือยเปล่าใส่แต่กางเกงในอาบน้ำ บนลานโล่งๆ ที่มีโอ่งใบใหญ่

ด้วยความที่ยังมีแสงจากอาทิตย์อัสดงอยู่
เลยจำแนกได้ว่าพี่เจตใส่กางเกงในสีแดงเลือดหมู
ส่วนพี่ทิมผู้มีตาเจ้าชู้ใส่กางเกงในสีฟ้าควยตุงอยู่ในกางเกงใน
ต้นขาแกร่งบวกกับเป้าตุงๆ ยิ่งทำให้พี่สองคนน่ามองยิ่งขึ้นไปอีก

ผมมองจนใจแทบละลาย
เฮ้อ! ดีจริงๆ ที่ได้เห็นภาพเอ็กส์ ๆ แบบนี้
พอผมไปถึงพี่สองคนก็ไม่ได้อายเลย คงเห็นว่าเป็นผู้ชายด้วยกันมั๊ง
อีกอย่างวันสองวันมานี้ก็ถือว่าผมสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับพี่แก
ได้ในระดับนึงเลยทำให้พวกแกไม่อายผม

พี่ทิมเห็นผมก่อนก็ทักผมด้วยรอยยิ้มแบบอัธยาศัยดี
“อ้าวคุณวินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับเนี่ย”
“มาเมื่อกี้อ่ะครับ...พอดีเอารถจักรยานมาคืนพี่เจต...แต่หน้ากระท่อมไม่เห็น มีคนเลยลองมาดูข้างหลัง”
“วันนี้มันร้อนน่ะครับผมกับไอ้เจตเลยอาบน้ำ...อ้อแล้วเนี่ยคุณวินกินข้าวมา ยังครับ…ถ้ายังจะได้กินด้วยกัน”

พี่ทิมฟอกสบู่ไปคุยไปอย่างคนนิสัยดี
หุ่นแกนี่ไม่แพ้พี่สักจริงๆ แน่นไปด้วยกล้าม แต่ไม่ล่ำ
ความสูงก็กำลังดีราว ๆ168 เซ็นต์ ซึ่งสูงกว่าผมนิดหน่อย

ผมตาโตก็ตอนที่แกล้วงมือเข้าไปถูในกางเกงในของแกนี่แหละครับ
อูยยยย...เสียวแทนอ่ะ ใจผมจะขาดรอนๆ ให้ได้

“ยะๆๆยังๆ ครับพี่ทิม ว่าจะเอาจักรยานมาคืนพี่เจตก่อนแล้วค่อยกลับไปกิน”
“โอ้ยไม่ต้องคืนหรอกครับคุณวินเพราะจักรยานนั่นก็เป็นของพี่เขยคุณ…
งั้นถ้ายังไม่กินข้าวมา...ก็มากินด้วยกันกับพวกผมก็ได้ถ้าไม่รังเกียจกับ ข้าวคนจน”
พี่เจตเสริม มือก็ถูสบู่ไปตามร่างกำยำที่แน่นไปด้วยกล้าม
ต้นขาดูจะใหญ่กว่าพี่ทิมซะอีกเป้าก็ตุงแน่นจนโป่งออกมาเด่นชัด

พี่เจตแกเป็นคนไม่ค่อยพูด อย่างที่บอกตั้งแต่แรกๆ
หน้าตาก็ไม่ได้ดีมาก แต่ด้วยความซื่อๆ และเงียบๆ ของแกก็ทำให้แก
ดูน่าสนใจอยู่ไม่น้อยไปกว่าพี่ทิมเลย
แต่พอเป็นเรื่องงานและเรื่องที่ควรใส่ใจแกก็จะพูดได้อย่างน่าฟัง
ดูแล้วเป็นผู้ใหญ่ดีครับ

“รบกวนพวกพี่ไหมอ่ะ”
“โอ้ยรบกวนอะไรกันคุณพี่เขยพี่สาวคุณน่ะดีกับพวกผม
มากกว่านี้อีก...เงินก็ดี..ไม่มีช้าแถมอาหารการกินก็ไม่ลำบาก
แค่เลี้ยงข้าวน้องชายนายไม่ถือว่าลำบากหรอกครับ”

พี่ทิมพูดคุยกับผมอย่างเป็นกันเอง หูตาแกนี่มันน่าฟัดจริงๆ
ผู้ชายไรวะ เซ็กส์อ่ะ

เมื่อพวกแกไม่อายผม ผมเลยทำเป็นซื่อไม่ยอมไปไหนนั่งที่แคร่ไม้
คุยไปเรื่อยเปื่อยแต่ตาไม่วางไปจากเป้ากางเกงใน
ของหนุ่มชาวสวนทั้งสองที่ตุงจนแทบทะลักออกมาจากกางเกงในเสียให้ได้
ขนหมอยก็แพรมออกมาตามน้ำ น่าดูเป็นที่สุด

“แล้วนี้คุณวินอาบน้ำมายังครับอาบด้วยกันไหมครับ”
“อ้อๆ อาบมาแล้วครับพี่”
“งั้นคุณวินรออีกแป๊บ”

พี่ทิมยังคงทำหน้าที่คุยเป็นเพื่อนผมไป ในขณะที่พี่เจตได้แต่ยิ้มๆ
อาบน้ำของแกไป แต่ใจจริงๆ ก็อยากจะอาบกับพวกแกด้วยเหมือนกัน
ก็หุ่นน่าฟัดออกปานนี้นี่นา

แล้วพี่สองคนก็ทำเอาผมตาค้างจนอยากจะเก็บภาพนี้ไว้ตลอดไป
ก็พวกแกเล่นถอดกางเกงในที่ใส่อยู่ออกทางปลายเท้าโดยไม่อายผมเลย
แล้วเดินโทงเทงไปหยิบผ้าขาวม้ามาเช็ดตัวโดยไม่เกรงใจกัน
ผมได้แต่อึ้ง! และอึ้ง ครับ

ก็ควยสองลำห้อยหัวโตงเตงอยู่ระหว่างดงหมอยดกดำ
ต่อหน้าผมไปมาในขณะที่แกก็เช็ดตัวไป

ผมแอบกลืนน้ำลายลงคอด้วยความอยากสุดๆ แต่ยังต้องใจเย็นๆ น่า
ผมบอกตัวเองในใจ
พวกพี่เขาคงจะทำจนเคยชินแต่ผมดิไม่ชินด้วย

พอเช็ดตัวเสร็จพี่สองคนก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในกระท่อม
แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า เป็นเสื้อยืดกับกางเกงบอลแบบสบายๆ
ทันใดนั้นในหัวผมก็คิดวิธีการในการสร้างสัมพันธ์
ที่ได้ผลชงัดนักทุกสถานการณ์

“ผมว่าเอางี้ดีไหมพี่...เพื่อเป็นการขอบคุณพี่สองคนที่ให้ความรู้ผมเรื่อง การทำสวนผลไม้ผมจะเลี้ยงเหล้าพวกพี่”
พี่สองคนที่กำลังแกะถุงกับข้าวอยู่มองหน้ากัน
“จะดีเหรอครับคุณ...คุณยังเด็กเดี๋ยวนายด่าพวกผมตายเลย”
พี่เจตที่สงบปากสงบคำแย้งอ่อยๆ

แต่ผมรู้มาว่าพวกพี่เขาน่ะชอบกินเหล้าเป็นประจำ
ตามประสาหนุ่มบ้านนอกโดยเฉพาะตอนสิ้นเดือน
แต่ตอนนี้เป็นปลายเดือนแล้วคงจะไม่มีตังค์กินเหล้าแน่ๆ
พวกแกก็คงจะอยากเหมือนกันแหละไม่งั้นคงจะหฏิเสธไปแล้ว

“ไม่เป็นไรหรอกครับพี่ผมเต็มใจเลี้ยงพี่เขยผมไม่ว่าหรอกน่า”
ในที่สุดพี่สองคนทนผมรบเร้าไม่ไหวเลยจำยอม
โดยที่พี่ทิมเป็นคนขับมอเตอร์ไซค์ออกไปซื้อเหล้าและเลยไปบอกแม่ผมด้วยว่าจะ นอนค้างที่กระท่อมกับพวกพี่เค้าเพื่อคุยเรื่องการทำสวนผลไม้
(โกหกได้หน้าตาเฉยจริงๆ)

ไม่นานพี่ทิมก็มาพร้อมเหล้ากลมนึงกับน้ำแข็งโซดา
และกับแกล้มอีกสองสามอย่าง
เราคุยกันไปอย่างออกรส เพราะผมคุยกับพี่เขาได้เกือบทุกเรื่อง
เรื่องการเมือง เรื่องกีฬา เรื่องหนัง เรื่องเพลง เรื่องผู้หญิง และสุดท้ายก็มาตกที่เรื่องเอากัน เข้าเค้า 5555

หนุ่มบ้านๆ อ่ะนพแถมยังเป็นหนุ่มโสด ภาษาพูดก็บ้านๆ
เย็ดก็บอกว่าเย็ด หีก็บอกว่าหี ควยก็บอกว่าควย
ฟังแล้วซื่อๆ และได้อารมณ์ดีครับ

และระหว่างที่พูดเรื่องเอากันไปผมก็ทำเนียนทำเป็นลูบต้นขาและจับเป้า
พวกพี่เขาไปด้วยว้าว! โคดเจ๋งอ่ะ
กล้ามเนื้อแน่นมากผมลูบจนอารมณ์กระเจิงแต่ก็ยังไม่กระโตกกระตากนะ
เดี๋ยวไก่ตื่นซะก่อน
พี่เจตน่ะไม่เท่าไหร่หรอก เพราะแกดูซื่อๆ ไม่ค่อยทันคน

แต่พี่ทิมนี่สิน่าจะอ่านเกมผมออก
เพราะหูตาแกดูค่อนข้างฉลาด และที่ผมเดาว่าแกรู้เพราะ
หูตาแกดูวับๆ วามๆ ดูยั่วยวนพิกล
แถมมียิ้มที่มุมปากด้วย อื๋ยยยย แบบนี้ก็มีลุ้นดิ อิอิอิ

ผมเลยลองเชิงแกดูโดยการแกล้งถูกเนื้อถูกตัวแกบ่อยๆ
และพี่แกก็ไม่ได้ว่าอะไรเอาแต่ยิ้มๆ และหัวเราะ
อ่ะๆๆ แบบนี้ก็เข้าทีอ่ะดิ แต่ก็ว่าไม่ได้อ่ะนะก็กลางป่ากลางสวนผลไม้แบบนี้
จะไปปลดปล่อยอารมณ์อยากได้ที่ไหน

แล้วพอเหล้ากลมแรกหมดหัวผมก็คิดการบางอย่างออก
แต่ผมไม่ค่อยกินเหมือนพี่ๆ เขาหรอกนะเเดี๋ยวเมา
แต่พวกพี่เขาดูท่ายังอยากกินต่อ
ผมมเลยอาสาไปซื้อเหล้ากับพี่ทิมสองคน ช่างคิดจริงๆ นะเรา อิอิอิ

ระหว่างทางที่ขับไปซื้อเหล้าผมก็ทำเนียนเป็นกอดพี่ทิมไปด้วย
ประมาณว่ากลัวตกอะไรประมาณนี้

“กลัวเหรอครับคุณ”
“ก็ผมไม่ค่อยได้ซ้อนมอเตอร์ไซค์เท่าไหร่อ่ะครับแม่ไม่ชอบกลัวเกิด อุบัติเหตุ”
“งั้นผมขับช้าๆ ก็ได้นะ”
“ไม่เป็นไรพี่ทิมเดี๋ยวพี่เจตรอนาน...นานๆ ทีได้ซ้อนมอเตอร์ไซค์คนหล่อๆ แบบพี่ก็สนุกดี”

นี่มีลูกยอด้วย
แต่ผมรู้ว่าแกแอบยิ้ม นั่นปะไรบอกแล้วว่าแบบนี้ต้องมีลุ้น
ผมกอดแกอย่างมีความสุข คนอะไรเนื้อแน่น กล้ามเป็นมัดๆ น่ากัด
กอดแล้วเต็มมือเต็มไม้เสียจริงๆ

ผมกอดแกได้สักพักใจก็เต้นตุ๋มๆ ต่อมๆ อยากจับควยแกจะตาย
ในที่สุดผมก็ค่อยๆ วางมือที่ต้นขาล่ำแกร่งของแก
แกก็เฉยยังคงทำหน้าทีขับรถไป
ผมเลยได้ใจเลื่อนมือไปจับที่เป้ากางเกงบอลของแกซะเลย
พระเจ้า! ควยแกแข็งรอมือผมอยู่แล้วนี่นา ผมถึงกับใจสั่น

“ฮั่นแน่ควยพี่แข็งเหรอ”
“ก็คุณเล่นลูบผมแบบนี้ไม่แข็งได้ไงครับ”

พูดแบบนี้ก็แสดงว่าแกสมยอมผมอ่ะดิ อิอิอิ
ผมเลยกำหมับเข้าให้แบบเน้นๆ อู้! ว้าว! แข็งโป๊กเชียว
กะจากขนาดที่ใกล้เคียงน่าจะราว ๆ 6.5 นิ้วเห็นจะได้

รอแป๊บนึงนะครับ ช้าๆ ได้พร้าเล่มงามครับ
แต่สำหรับผมไวไฟได้กระบองท่อนโตครับผม 5555


พี่แกถึงกับครางอือเบาๆ น้ำเสียงแกโคดแมนและช่างเอ็กได้ใจผมซะจริงๆ
ผมเลยใจกล้าหน้าด้านขอล้วงเข้าไปในกางเกงบอลของแก
พระเจ้าตื่นเต้นสุดๆ อ่ะครับ ความรู้สึกตอนนั้น
บอกได้คำเดียวว่าได้อารมณ์สุดๆ นับเป็นอีกหนึ่งครั้งแรกที่ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์แล้วจับควยผู้ชายถอกเล่น อย่างนี้

ตอนแรกแกขัดขืนนิดหน่อย โดยการจับมือผมไว้
“อย่าครับคุณเดี๋ยวมีใครเห็น”
“มืดขนาดนี้ไม่มีใครเห็นหรอกครับพี่ทิม”
มันก็จริงๆ อ่ะ ไม่ได้หน้ามืดนะครับ 5555
เพราะแถบนี้เป็นบ้านสวนบ้านแต่ละหลังก็ห่างกันมากมีแต่สวนผลไม้คั่นไว้

แกเลยปล่อยให้ผมถอกเล่นอย่างสนุกมือท่าทางต่างฝ่ายต่างมีอารมณ์สุดๆ
พอดีมาถึงร้านขายของชำซะก่อน ผมเลยต้องเอามือออกมาอย่างเสียดาย
พี่แกก็หัวเราะผมขำๆ ผมชอบแกเวลายิ้มจัง โคต-ตะ-ระ เท่ห์อ่ะ

และพอขากลับพอขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซค์ปุ๊บผมก็ล้วงเข้าไปใหม่
ทั้งกำและถอกเล่นอีกพี่แกก็เหมือนรู้งานปล่อยให้ผมกำเล่นไม่ได้หวง
พึ่งจะรู้ว่าแกใช้ระบบ แฮปปี้ ใจดีมีใว้ให้ถอก อิอิอิ
ผมชักเล่นจนแกครางเบาๆ ด้วยความเสียวจัด
“อือออ...ซี้ดดดดดดด”

ผมกอดแกแน่นโคดได้อารมณ์อ่ะ ตัวแกออกหนาล่ำและแข็งแรงไปด้วยกล้าม
บ่าไหล่ก็กว้างหนา โดยเฉพาะกลิ่นผู้ชายแท้ๆ
ทำให้ผมโคดร่าน และอยากโดนแกทำมิดีมีร้ายสุดๆ
จนผมอดคิดไม่ได้ว่าถ้าแกจะเย็ดผม
แล้วฆ่าหมกป่าผมก็คงยอม 5555 (คิดไปโน่นไอ้วินหน้ามืด)

จนกระทั่งเข้ามาในเขตสวนของพี่เขย
พี่ทิมหัวเราะด้วยเสียงสั่นๆ หื่นๆ จนผมสัมผัสได้ว่าแกอยากเต็มแก่เเล้ว
แกพูดทีเล่นทีจริงว่า

“จับมากๆ แบบนี้ระวังจะเจอดีนะครับ...ช่วงนี้ผมยิ่งไม่ได้ชักว่าวอยู่ด้วย”
“เจอแบบไหนอ่ะครับ”

ผมท้าทาย แถมเล่นเป่าลมใส่หูแกอีกจนแกสุดทนทานต่อไป
“กูทนไม่ไหวแล้วโว้ย!”
แกสบถออกมาอย่างสุดทน ตอนแรกผมนึกว่าแกจะเตะผมซะอีก
ตกใจเลยอ่ะ

ที่ไหนได้แกกลับตัดสินใจได้เด็ดขาดมากๆ เมื่อเลี้ยวมอเตอร์ไซค์
เข้าไปในสวนผลไม้จำได้ว่าเป็นสวนกระท้อน แต่ด้วยแสงจันทร์ข้างขึ้น
เลยพอให้เห็นสีหน้าของพี่แกว่าดูหื่นๆ
แกจอดรถปุ๊บก็จับหน้าผมให้คลุกกับเป้ากางเกงที่ตุงโคดๆ ของแก

“อยากเล่นดีนักดูดควยให้หนำใจเลย”

พี่ทิมก็นั่งเอนตัวที่อานรถ แต่สองมือไม่ได้ปล่อยจากหัวผมที่กุมให้ผม
ดมและคลึงหน้าที่ควยแก อูยยยย ผมโคดได้อารมณ์อ่ะ
ผมเลยรีบไปเอาควยแกออกมาทางขากางเกงบอล
มันเขื่องและแข็งมาก จากแสงจันทร์พอพิจารณาได้ว่า

ขนาดของมันแม้ไม่ใหญ่เท่าพี่ชาติ
(ไม่ต้องไปเทียบกับพี่หน่อยเพราะเล็กกว่าเยอะ)
แต่ขนาดก็เขื่องทีเดียว ถือว่าไม่ได้เล็กหรอกครับสำหรับไซส์ขนาด
6.5 นิ้วแบบนี้ หัวมนทู่ ขนหมอยก็ดกดำเป็นกระจุก
เหมือนอย่างที่ผมจินตนาการไว้

พอจับถอกได้ไม่กี่ทีผมก็อ้าปากดูดและดูด ด้วยความหน้ามืดสุดๆ
ด้วยขนาดที่ถือพอรับได้ผมจึงพยายามดูดเกือบสุดโคน
เล่นเอาพี่ทิมถึงกับตัวเกร็งกระตุกด้วยความเสียว
“เสียวโว้ยยยย...อูยยยยกูเสียวควย”

ทันใดนั้นแกก็จับตัวผมขึ้น
“กูทนไม่ไหวแล้วโว้ย…มานี่ขอเย็ดตูดทีเถอะ”
แล้วแกก็จับผมถอดกางเกงแล้วถ่างขาผมออก

แล้วพี่ทิมก็กดหัวควยของแกเข้าตูดผม มันเข้าได้ไม่ยากจากน้ำลายลื่นๆของแก
และจากการที่ผมโดนควย 8 นิ้วของพี่เขยเย็ดเมื่อวานไปหนึ่งดอกเบ้อเร่อ
“อือออ” ผมครางด้วยความร่าน สองมือจับที่ท้ายรถแน่น
“ซี้ดดด...หัวควยเข้าไปแล้วอูยยยกูเสียวจริงๆ”

เพียงไม่นานควย 6.5 นิ้วของพี่ทิมก็เข้าสุดลำจนขนหมอยดกๆ สากๆ ของแกคลึงที่แก้มก้นผมจนเสียวสัดๆ ส่วนพี่แกก็ถึงกับครางซี้ดๆ
“ซี้ดดดดอูยยยยเสียวควยจริงๆ”

แล้วหลังจากนั้นแกก็ไม่พูดพล่ามทำเพลงอีกต่อไปสองมือกดที่บ่าผมไว้
กระเด้าเป็นกระเด้า เอวแกดีมากๆ ตั้งแต่เย็ดมาผมก็เพิ่งจะเจอคนที่เย็ด
เอวไวยังกะพระเอกหนังเอ็กส์แบบนี้เป็นครั้งแรก เจ๋งสุดๆ
ผมเสียวจนครางออกมาอย่างมีความสุข
“อือออ...อูยยยยเสียวจังอ่ะ...พี่ทิมพี่เย็ดเก่งจังเลย...อืมมม”

สองมือผมยังจับที่ท้ายรถมอเตอร์ไซค์แน่นเพราะกลัวหัวคะมำ
จากแรงกระแทกจากพี่ทิมคนสวนหุ่นสุดเอ็กส์คนนี้
“ซี้ดดด... ตูดฟิตชิหายเลยอูยยยย... กูเสียววว... ควยยยย... อาๆๆ”
ผมเองก็มันและได้อารมณ์โคดๆ

แม้จะเคยเอากับพี่รุ่งและไอ้เกียรติในป่ามาก่อนแต่ก็เอาตอนกลางวัน
ส่วนกลางคืนแบบนี้ก็แค่ดูดให้กับไอ้โจ้ กับอ้นแฟนคนแรก
แต่โดนเย็ดแบบนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกและสะใจสุดๆ
ผมจึงได้เก็บพี่ทิมไว้ในลิสท์ “ผู้ชายน่าจำ”
เพราะทำให้ผมได้ทำอะไรครั้งแรกหลายอย่างในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

ขนาดของอาวุธแกอยู่ในกลุ่ม พี่รุ่ง พี่เอส ตั้ม พี่ควร พี่สัก และพี่สิท
ซึ่งก็ไม่ได้ใหญ่เท่าพี่ชาติ พี่กบ ยิ่งไม่ต้องไปเทียบกับพี่หน่อย
เพราะเจ้านี้ผมถือว่าใหญ่สุดตั้งแต่ผมโดนเอามา
แต่กับลีลาการกระเด้านี่สิได้ใจผมสุดๆ และขอยกให้เป็นที่หนึ่ง
ได้เลยทีเดียว

“แรงๆๆ แรงอีกครับ...ดีครับพี่ทิม...ผมมันจังครับ...อูยยย”
“ตูดตอดดีชิหาย...อูยยยกูเสียวหัวควยสัดๆ อาๆๆๆ อึ้บๆๆๆ...ตูดแม่งทั้งเนียนทั้งขาว...ทั้งตอดควยกูสัดๆ....เสียวจะทนไม่ไหว แล้วกู...อูยยยซี้ดดด”

จนในที่สุดผมก็ทนการกระแทกจากควยแกไม่ไหวชักว่าวให้ตัวเองได้ไม่นาน
ก็ปล่อยน้ำแตกออกมาก่อนแกแล้วแกครางเสียงดัง
“อย่าขมิบนักสิกูเสียวควย...อูยยยยยน้ำกูจะแตกแล้ว”

แล้วแกก็เร่งกระเด้าเร็วและแรงอีกเท่าตัว
“อึ๊บๆๆๆๆ อ่าๆๆๆ ....เสียวโว้ยยยย...กูๆๆๆน้ำกูอออกแล้วววว...อ๊าซ์ๆๆ”
ร่างแน่นแกร่งของพี่ทิมเกร็งและกระตุกกึกๆๆ ไม่กี่ที
ก็กอดซบผมที่ด้านหลังหอบแฮ่กๆ หัวใจแกเต้นแรงจนผมรู้สึกได้
ช่างเป็นความรู้สึกที่วิเศษจริงๆ ครับ

แกยังคงกอดผมแน่นอีกครู่ใหญ่คงจะเสียวและมันมาก
ก็ว่าไม่ได้นะครับอยู่แต่ในสวนผลไม้ตลอดปีแบบนี้จะไปหาหอยที่ไหนเย็ด
พอมาเจอตูดและปากผมหน่อยละเป็นเย็ดไม่บันยะบันยัง

“ขอโทษนะครับคุณวินที่เย็ดคุณวินแรงไปหน่อย และพูดไม่เพราะกับคุณ
เวลาผมเงี่ยนสุดๆ ทีไรมันลืมตัวทุกทีเลย”
“ไม่เป็นไรครับพี่ทิมทำให้พี่ทิมมีความสุขผมก็ดีใจครับ”
(ช่างกล้าพูด ตัวเองก็มันเหมือนกันแหละไอ้วินเอ๊ย)
ผมเข้าไปกอดแกแน่น แกก็กอดผมตอบ สุขจังครับ

แล้วเราก็ขับรถกลับไปกระท่อม
พอไปถึงพี่เจตก็หลับฟุบแล้วครับ คงจะรอพวกผมนานไปหน่อย
ก้เล่นเอากันร่วมครึ่งชั่วโมง
ผมกับพี่ทิมเลยช่วยกันพยุงพี่เจตไปนอนในกระท่อม
ตัวพี่แกหนักมากเพราะแกตัวโตกว่าพี่ทิมอีก

แต่กลิ่นเหล้าผสมกับกลิ่นหนุ่มวัยฉกรรจ์ของพี่เจต
ก็ทำให้ผมมีอารมณ์ขึ้นมาอีกจนได้
พอจัดให้พี่เจตนอนแล้ว พี่ทิมก็นอนหงายอ้าซ่าสบายอามรมณ์หน้าตายิ้มยั่วๆ
เฮ้อ! ผมล่ะแพ้รอยยิ้มแบบนี้ของแกทุกทีซิน่า
แล้วแกก็สะกิดผมเบาๆ มือก็ลูบที่ควยตัวเองไปมา

“ที่รักดูดควยให้หน่อยซิ”
แกยิ้มๆ ยั่วยวนสุดๆ แล้วมีเหรอผมจะกล้าปฏิเสธ
ผมถอดกางเกงบอลแกออกทันที ทันใดควยลำสวยก็เด้งดึ๋งชี้เด่เป็นลำตรง
ครั้งนี้เห็นความสวยงามของท่อนลำแกได้อย่างชัดเจน
หัวควยแกมนทู่แปลกดีแต่ก็สวยดี หัวแดงช้ำ
ขนหมอยก็ดกดำเป็นพืด แต่มันกระจุกตัวอยู่แต่ที่โคน
ไม่ได้ลามมาตามขา ผิวแกก็เนียนสะอาด ซึ่งผมชอบคนผิวเนียนมาก

ผมก็ไม่ปล่อยให้แกรอนานเลยจับควยแกชักขึ้นลงสักพัก
แล้วบ๊วบให้แกอย่างอร่อยปากโดยที่มีพี่ทิมคอยกำกับ

จนกระทั่งแกอยากจะเย็ดตูดผมอีกผมเลยถอดกางเกงออก
แล้วผมก็ขึ้นคล่อมบนร่างกำยำไปด้วยกล้ามแข็งๆ ของพี่ทิม
แล้วกดรูลงให้ตรงควยพี่แก ดูซิหลับตาซี้ดปากท่าทางจะเสียวมาก
โคดได้อารมณ์

พอเข้าได้สุดลำผมถึงกับหลับตาปี๋อย่างมีความสุข
ยิ่งตอนนี้ได้เห็นหน้าแกตอนโดนผมขย่มตอด้วยแล้วยิ่งสะใจเป็นบ้า
ผมขย่มจนแกครางลั่นสองมือบีบบี้ที่หัวนมผมจนผมเสียวโคดๆ

“ขย่มแรงๆ แรงอีกๆ ดีๆๆๆ อูยยยยเสียวโว้ยยยย”
บ้างก็จับที่เอวผมให้กระแทกตูดหาควยแกแรงๆ แล้วแกก็ลุกขึ้นนั่งแต่ยังคง
ปล่อยให้ผมนั่งขย่มตอแกไปเรื่อยๆ ผมเสียวมาก
กอดร่างเปลือยเปล่ากำยำแกแน่น

“พี่ทิมอูๆๆๆ”
“ดีขย่มแรงๆ อูยยยยเสียวหัวควยยย สัดๆ”
ผมเสียวจนจับหน้าแกเพื่อจูบปากพี่ทิมก็ตอบรับด้วยดี
เราแลกลิ้นกันอย่างเมามันดูดกันจนน้ำลายแตกฟอง

แล้วพี่แกก็เปลี่ยนท่าโดยที่ควยไม่หลุดนับว่าแกเก่งมาก
เราเล่นกันในท่าหมา ท่านี้ทำไมผู้ชายชอบเอาจัง
และเวลาเอาก็ชอบเย็ดแรงๆ
และทำไมผมถึงได้ชอบเหมือนกันก็ไม่รู้ดิ อิอิ

และก็มาจบที่ท่าขนาบข้างผมถูกยกขาขึ้นพาดกับขาแกร่งแกข้างนึง
แล้วพี่ทิมก็ซอยยิกๆๆๆ ไวเป็นลูกสูบ เสียงตูดกับควยกระทบกัน
ดังพั่บๆๆๆ ฟันของแกก็ขบกัดที่หัวนมผมจนเสียวสุดๆ

แล้วระหว่างที่เอากันผมก็จูบปากแกไปด้วยมันจริงๆ
ผมเสียวมากจับมือแกไปชักว่าวให้ผมด้วยแกก็ทำตามด้วยความหน้ามืด
แล้วในที่สุดผมก็น้ำแตกก่อนแก
“อูยยยย...เสียว...น้ำผมแตกแล้วครับพี่ทิมอาซ์!”

ด้วยการขมิบจากรูผมแกเลยคับแน่นลำควยไปด้วย
“อูยยยยย...น้ำๆๆ ...กูจะออกอีกแล้ว...อึ้บๆๆๆๆ อ๊า! ซี้ดดดด!ออกแล้วๆ อู้!”

แล้วตัวแกก็กระตุกกึกๆ พ่นน้ำเข้ามาในตัวผมผมเป็นครั้งที่สอง
พอน้ำแตกแกก็นอนทับบนตัวผมอย่างหมดแรง
และคราวนี้เราสองคนก็หลับเป็นตายไปเลย
เมาทั้งเซ็กส์เมาทั้งเหล้านี่นา 5555

สำหรับพี่ทิม กว่าผมจะกลับบ้านก็เล่นกับแกบ่อยกว่าใคร
เพราะติดใจลีลาการกระเด้าของแก
ส่วนกับพี่หน่อยนับได้แค่สองสามที เพราะกว่าจะถูกแกเย็ดที
ก็หาเวลายากมาก แต่พอโดนทีก็แทบคลานอ่ะ ก็ใหญ่ซะขนาดนี้นี้นา

อีกอย่างงานแกเยอะด้วยทั้งต้องดูและเรือประมงด้วย สะพานปลา
แถมยังต้องดูแลพี่จินที่กำลังท้องด้วย
แต่ก็ถือว่าคุ้มอ่ะครับมาตราดคราวนี้